ปลูกผมผู้หญิง ปรับกรอบหน้าให้สวยเป็นธรรมชาติ ทำอย่างไร

ปลูกผมผู้หญิงได้มั้ย_1
สารบัญ

ปัจจุบันผู้หญิงก็มีปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะไม่แพ้ผู้ชายเช่นกัน ปัญหาเส้นผมเกิดจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนหลังคลอด หรือวัยหมดประจำเดือน การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นผม เช่น โปรตีน วิตามินบี ฯลฯ เกิดจากภาวะความเครียดสะสม รวมถึงการใช้สารเคมีจัดแต่งทรงผมต่างๆ แต่ปัญหาเหล่านี้มีวิธีรักษา เช่นการทานยา ทำทรีทเม้นต์ หรือการปลูกผมผู้หญิงซึ่งจะมีวิธีการอย่างไร และมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ติดตามได้จากบทความนี้

ปลูกผมผู้หญิง (Female Hair Transplant) คือ การแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน หรือปลูกผมทับรอยแผลเป็นในผู้หญิง โดยใช้วิธีย้ายรากผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะ (Donor Area) มาปลูกผมในบริเวณที่ต้องการ

ปลูกผมผู้หญิง 01

สำหรับปัญหาผมร่วงผมบางในผู้หญิงที่เหมาะหรือไม่เหมาะสำหรับการปลูกผมแบ่งออกเป็น 2 กรณีตามรายละเอียดดังนี้ค่ะ

1. ผมบางทั่วทั้งศีรษะ

อาจไม่สามารถปลูกผมได้ เนื่องจากผู้หญิงไม่มีบริเวณผมถาวรเหมือนผู้ชาย หมอแนะนำให้ใช้วิธีการรักษาอื่นๆ แทนการปลูกผม ได้แก่

  • การรักษาด้วยยาทาน และยาทา

หลักๆ แล้วจะมี 2 ตัวที่เราอาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างอย่าง ไมน็อกซิดิล (Minoxidil) และฟิเนสเตอร์ไรด์ (Finasteride) ทั้งแบบกินและแบบทา ซึ่งการรักษาผมร่วงผมบางด้วยยาทานั้น จำเป็นที่จะต้องมีความสม่ำเสมอในการทายา และต้องใช้เวลาตั้งแต่ 3-6 เดือนขึ้นไป จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนค่ะ

ถึงอย่างไรก็ตามการใช้ยาปลูกผมในผู้หญิงมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง เพราะอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ คนไข้จึงไม่ควรไปหาซื้อยากินเองเด็ดขาด การรักษาด้วยยาต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ

  • การทำทรีทเม้นต์  PRP  (PLATELET RICH PLASMA) 

เป็นการเจาะเลือดของคนไข้เองมาปั่นเอาส่วนพลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น จากนั้นนำมาฉีดบริเวณที่มีปัญหาผมบาง หมอแนะนำให้ทำเดือนละครั้งติดต่อกัน 3 เดือน จากนั้นก็ค่อยทำทุกๆ 3-6 เดือนค่ะ การทำทรีทเม้นต์ PRP จะเห็นผลชัดเจนหลัง 6 เดือนเป็นต้นไป   

ผู้หญิงหัวล้าน 02

2. ไม่ได้มีปัญหาผมบางทั่วศีรษะ

สำหรับผู้หญิงที่ไม่ได้มีปัญหาผมบางทั่วศีรษะ แต่มีปัญหาหน้าผากสูง หรือหัวเถิก หรือแนวผมมันเถิกร่นเข้าไปเหมือนผู้ชาย แบบนี้คนไข้ผู้หญิงปลูกผมได้ค่ะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ช่วยปรับรูปหน้าให้อ่อนหวาน ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น ทำให้แนวผมดูเต็ม และสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ

การปลูกผมผู้หญิงที่ Hairsmith ของเรามี 2 วิธี ตามบัญญัติของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) ได้แก่

วิธี FUT ย่อมาจาก FOLLICULAR UNIT TRANSPLANTATION

การปลูกผมแบบ FUT นี้เป็นเทคนิคปลูกผมในยุคแรก โดยเทคนิคปลูกผมนี้จะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก โดยแพทย์จะผ่าเอาหนังศีรษะออกมาเป็นเส้นยาวทั้งชิ้นด้านหลังศีรษะ จากนั้นจะเย็บแผลประกบกัน ซึ่งเทคนิค FUT นี้ต้องใช้เวลากว่า 1-2 สัปดาห์เพื่อให้แผลผ่าตัดด้านหลังปิดสนิทและหายดี โดยเมื่อครบ 7 วัน คนไข้ต้องไปทำการตัดไหมที่ด้านหลังค่ะ และจะทิ้งรอยแผลเป็นยาวๆ ไว้ กรณีนี้คนไข้ต้องไว้ผมยาวเพื่อปกปิดรอยแผลเป็น

วิธี FUE ย่อมาจาก FOLLICULAR UNIT EXCISION

เป็นเทคนิคปลูกผมที่ใหม่กว่า โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีหัวเจาะขนาดเล็กวางคร่อมกอผม และทำการเจาะกอผมออกมาทีละกอจากบริเวณด้านหลังศีรษะ กอผมที่เจาะออกมาจะถูกคัดแยกและจัดกลุ่มให้เหมาะสมเพื่อนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งเทคนิคแบบ FUE จะได้รับความนิยมมากกว่า FUT เพราะเจ็บน้อยกว่า และแผลด้านหลังหายเร็วกว่าแบบ FUT ค่ะ 

แต่ไม่ว่าจะเลือกปลูกผมด้วยวิธีไหนที่ Hairsmith Clinic ใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Implanter pen ในการนำรากผมปลูกกลับเข้าไปในหนังศีรษะ ข้อดีคือจะช่วยลดความเสียหายให้แก่รากผม เท่ากับว่าโอกาสรอดของรากผมที่ปลูกไปนั้นก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน 

ปลูกผมผู้หญิง 02
ปรึกษาคุณหมอ

ด้วยความที่ศัลยกรรมปลูกผมเป็นการผ่าตัดเล็ก ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนและหลังปลูกผมเลยไม่ได้ยุ่งยากดังรนี้

  • หยุดยาที่ทําให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น แอสไพริน Plavix น้ํามันปลา วิตามินต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินอี ยาแก้อักเสบ ก่อนวันผ่าตัดเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และแนะนำให้ทานอาหารเช้ามาในวันปลูกผม
  • แนะนำให้สวมเสื้อที่มีกระดุมสีเข้มมาในวันผ่าตัด เพื่อที่จะได้ไม่สัมผัสแผลเวลาสวมใส่

อ่านเพิ่มเติม : วิธีการเตรียมตัวก่อนปลูกผมทำอย่างไร

ช่วง 2 สัปดาห์แรก

  • ระวังไม่แคะ แกะ หรือเกาบริเวณที่เพิ่งปลูกผม
  • งดออกกำลังกายที่เสี่ยงต่อการสัมผัสโดนบริเวณที่ปลูก
  • สามารถสระผมได้ทุกวันตามวิธีที่เจ้าหน้าที่แนะนำโดยใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน
  • หลีกเลี่ยงการตากแดดนานๆ จนผิวไหม้เป็นเวลา 3 เดือน แนะนําให้สวมหมวกเมื่อต้องอยู่กลางแจ้งนานกว่า 10 นาที

หลังปลูกผมครบ 2 สัปดาห์ขึ้นไป

  • งดว่ายน้ำและเข้าซาวน่า 1 เดือน
  • สามารถสระผมและใช้แชมพูสูตรปกติได้แล้ว
  • ไม่มีข้อจํากัดด้านกิจกรรมทางเพศ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
  • หากต้องการยืดผม ย้อมผม ดัดผม แนะนําให้ทําหลังปลูกผมไปแล้ว 2 เดือน

อ่านเพิ่มเติม : วิธีดูแลตัวเองหลังปลูกผม

  1. มีศีรษะเถิก แนวผมร่นสูงตั้งแต่เกิด
  2. คนที่ผมบางตรงแสกกลางจากกรรมพันธุ์ แต่ผมด้านหลังยังหนาอยู่
  3. ปลูกผมทับรอยแผลเป็น รวมถึงรอยแผลเป็นจากการทำศัลยกรรม
  4. คนที่อยากปรับกรอบหน้าให้ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้นเพื่อเสริมความมั่นใจ

อีกหนึ่งคำถามที่ถูกถามบ่อยเลยว่าปลูกผมเจ็บรึเปล่า การปลูกผมนั้น ถ้าอ้างอิงจากนิยามของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) จะถือว่าเป็นการผ่าตัดชนิดนึงอยู่แล้ว ขึ้นชื่อว่าผ่าตัด จะบอกว่าไม่เจ็บเลยก็เป็นไปไม่ได้ ยิ่งแนวทางของ ISHRS นั้นระบุชัดว่าห้ามโฆษณาว่าเป็นศัลยกรรมที่ไม่เจ็บ (Painless Surgery) ดังนั้นจะบอกว่าปลูกผมไม่เจ็บก็คงเป็นเรื่องโกหก

ที่ Hairsmith Clinic ขั้นตอนเดียวที่จะรู้สึกเจ็บก็คือตอนฉีดยาชา ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นแรกสุดของการผ่าตัด ถามว่าเจ็บแค่ไหน หากคนไข้เคยโดนฉีดยา ฉีดโบท็อกซ์ มาก่อน ความเจ็บก็ประมาณนั้นแหละค่ะ เรียกว่าอยู่ในระดับที่ทนได้แน่นอน นอกจากนี้ เรายังมีทีมนวดผ่อนคลายขณะฉีดยาชา เพื่อช่วยเบี่ยงเบนความรู้สึกเจ็บให้ลดลง คลายความตึงเครียด และความกังวลของคนไข้ขณะถูกฉีดยาให้อีกด้วย

ปลูกผมผู้หญิง 10

เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว คนไข้ก็จะไม่รู้สึกตลอดการผ่าตัด รวมถึงหลังผ่าตัดด้วยเช่นกันค่ะ ในคืนแรกหมอจะให้ยาแก้ปวดติดกลับบ้านไปเผื่อด้วย โดยที่หลังจากปลูกผมไปแล้ว อาการชาอาจจะยังลงเหลือค้างอยู่ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือนก็จะกลับมารู้สึกเป็นปกติ ไม่ต้องกังวลอะไรค่ะ

ที่ Hairsmith Clinic ราคาปลูกผมผู้หญิงจะอยู่ที่กราฟท์ละ 75 บาท (ราคาปลูกผมปี 2567) เมื่อปลูกขั้นต่ำ 1,000 กราฟท์ค่ะ แต่ถ้าปลูกน้อยกว่านั้น ราคาปลูกผมก็จะอยู่ที่ 90 บาทต่อกราฟท์ โดยมีขั้นต่ำที่ 49,000 บาท

  • ยาทานปลูกผมตลอด 12 เดือน (ไม่มีใครให้มากกว่านี้แล้ว เชื่อสิ)
  • ทรีตเม้นต์ PRP หนึ่งครั้ง
  • ติดตามผลทุก 3 เดือนตลอดปี
  • ใช้หมวกเลเซอร์ปลูกผมพลังงานต่ำ LLLT ได้ไม่จำกัดตลอดปี
  • พร้อมรับประกันผลลัพธ์

การดูรีวิวปลูกผมควรดูผลลัพธ์หลังปลูกผมตั้งแต่ 6-12 เดือนเพราะเป็นช่วงที่ผมที่ปลูกเริ่มขึ้นมากกว่า 50% แล้ว ดังนั้น รูปหลังปลูกผมทันทีไม่สามารถบอกได้ว่าผมจะขึ้นดีมั้ยนั่นเอง

ปลูกผมผู้หญิง 06
ปลูกผมผู้หญิง 04
ปลูกผมผู้หญิง 05

ปลูกผมผู้หญิงต่างจากผู้ชายอย่างไร

การวางแนวผมของผู้หญิงต้องใช้ความละเอียดไม่ต่างจากของผู้ชาย เวลาหมอปลูกผมผู้หญิง แนวผมมักจะโค้งรับกับใบหน้าดูอ่อนหวาน ไม่แข็งกระด้าง แนวผมแถวหน้าสุดจะเป็นกอผมหนึ่งเส้นหรือที่เรียกว่า ONE-HAIR GRAFT เพื่อสร้างแนวไรผม แล้วค่อยๆ ไล่ความหนาเข้าไปเพื่อให้ผมที่ปลูกดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด หรือคนไข้สามารถนำตัวอย่างมาให้หมอดูก่อนได้ว่าต้องการแนวผมแบบไหน เพื่อให้ได้ตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุดค่ะ

ปลูกผมผู้หญิงมีผลข้างเคียงหรือไม่

การปลูกผมจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยมาก ซึ่งไม่ได้เป็นที่น่ากังวล ที่พบได้ทั่วไปก็มักจะเป็นอาการบวม อาการปวดเล็กน้อย รอยแดง ภาวะผมร่วงชั่วคราว (Shock Loss) หรือเส้นผมเปลี่ยนสี เป็นต้น อย่างไรก็ดี ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เป็นเรื่องชั่วคราวและสามารถหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง

ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกคลินิกปลูกผมที่มีมาตรฐานจะลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้ ในทางตรงกันข้าม หากเลือกผู้ให้บริการที่ไม่มีมาตรฐานหรือไม่มีประสบการณ์ ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน อย่างเลวร้ายที่สุดคือติดเชื้อรุนแรงจนเสียชีวิต ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศอินเดีย จะเห็นได้ว่าการเลือกคลินิกปลูกผมที่ดีจึงสำคัญมาก

ปลูกผมผู้หญิงที่ไหนดี

พญ.พรีมา ทศบวร

หากมองหาคลินิกปลูกผมสำหรับผู้หญิงที่ Hairsmith Clinic เรามีแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ ผ่าตัดสำเร็จมาแล้วกว่า 3,000 ราย การันตีความสามารถระดับสากลโดย American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) จากสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งถือว่าเป็นสถาบันที่ให้การรับรองด้านศัลยกรรมปลูกผมแห่งเดียวที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และเลือกใช้ Implanter Pen ในการปลูกผมแทนเทคนิคแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นวิธีที่ลดโอกาสสร้างความเสียหายแก่รากผมให้เหลือน้อยที่สุด รวมถึงหัวเจาะแบบ Hybrid ของ WAW FUE SYSTEM ที่ออกแบบโดย Dr. Jean Devroye ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในหัวเจาะ FUE ที่ดีที่สุดในโลกขณะนี้ ผสานกับการออกแบบแนว Hairline ที่มีความเป็นธรรมชาติึ่งเป็นทักษะเฉพาะตัวของแพทย์ปลูกผมอีกด้วย

ปลูกผมผู้หญิง คือการย้ายรากผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะ (Donor Area) แล้วนำไปปลูกกในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งการปลูกผมผู้หญิงไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงผมบางแบบทั่วศีรษะ แต่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากเถิกสูงเพื่อปรับกรอบหน้าให้มีสัดส่วนที่เหมาะสม การปลูกผมทับรอยแผลเป็นบนหนังศีรษะ หรือปลูกแทรกตรงที่ผมบางในกรณีที่ไม่ได้มีปัญหาผมบางทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งเรื่องผมเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนให้ความสำคัญ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมความมั่นใจของเรา หมอยินดีช่วยดูแลให้ทุกคนมีความมั่นใจขึ้น เข้ามาปรึกษาก่อนได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปลูกผม DHI
บทความ
Prima Tossaborvorn

ความเข้าใจผิดระหว่างวิธีปลูกผม DHI กับ FUE

หมอได้ยินคำถามจากคนไข้ต่างชาติว่าวิธีปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ดีกว่า วิธีปลูกผม FUE ยังไง คำถามนี้แอบทำให้หมอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากด้วยกลยุทธ์โฆษณาในปัจจุบัน บ่อยครั้งมันทำให้คนไข้เริ่มเข้าใจผิด หมออยากเขียนอธิบายเกี่ยวกับวิธีปลูกผม DHI และวิธีปลูกผม FUE ดังนี้ค่ะ

ช่องเสือร้องไห้ YOUTUBER ชื่อดัง เลือกเข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ HAIRSMITH CLINIC_1
บทความ
Prima Tossaborvorn

ช่องเสือร้องไห้ ยูทูปเบอร์ชื่อดัง เลือกเข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ Hairsmith Clinic

เมื่อช่องเสือร้องไห้ มีผู้ติดตามบนยูทูปกว่า 3 ล้านคน เข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ Hairsmith Clinic พบกับความสนุกสนานพร้อมสอดแทรกสาระความรู้การปลูกผม และสาระน่ารู้เกี่ยวกับเส้นผม

ปลูกผมแบบ NON-SHAVEN FUE กับ FUE ต่างกันอย่างไร_1
บทความ
Prima Tossaborvorn

ปลูกผมแบบ NON-SHAVEN FUE กับ FUE ต่างกันอย่างไร

เข้าใจลึกซึ้งในการเปรียบเทียบระหว่างการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE และ FUE ทั่วไป ทำความเข้าใจในข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี, รวมถึงการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด หาคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกระหว่างวิธีการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE หรือ FUE ทั่วไป ทำให้การตัดสินใจของคุณเป็นไปอย่างมีข้อมูลและมั่นใจ.

ทำไมถึงเลือกปลูกผมถาวรที่ HAIRSMITH CLINIC_1
ข่าวสาร
Prima Tossaborvorn

Buffet Channel ช่องยูทูปชื่อดังตัดสินใจปรึกษาปลูกผม

เติ้ลและชิน Buffet Channel เล่าถึงประสบการณ์ในการตัดสินใจปลูกผมที่ Hairsmith Clinic หลังจากได้เห็นรีวิวจากช่อง YouTube ของพี่ๆ เสือร้องไห้ หลังจากปรึกษากับแพทย์ที่คลินิก, รู้สึกประทับใจกับความเชี่ยวชาญและคำแนะนำที่ได้รับ ที่สำคัญ, การออกแบบแนวผมที่เหมาะสมกับรูปหน้า จึงตัดสินใจเลือกปลูกผมที่ Hairsmith Clinic รอติดตามผลลัพธ์กันได้เลย