รู้ทันรีวิวปลูกผม

รู้ทันรีวิวปลูกผม_1

รีวิวปลูกผมที่ดีควรดูจากอะไรบ้าง

คลินิกปลูกผมสมัยนี้มีอยู่เต็มไปหมด หมอเคยมีเขียนถึงเคล็ดลับในการเลือกว่าจะปลูกผมที่ไหนดีไปแล้ว และหนึ่งในปัจจัยที่หมอแนะนำให้ใช้ในการพิจารณาคือการดูผลงานหรือรีวิวปลูกผมของคลินิกนั้นๆ ให้มากๆ แต่หลายคนคงจะสงสัยใช่มั้ยล่ะคะว่า แล้วจะดูรีวิวปลูกผมอย่างไรให้เกิดประโยชน์ มีแนวทางในการดูมั้ยว่าแบบไหนดี หรือแค่เห็นว่าผมขึ้นตอน 2 อาทิตย์แรกก็ถือว่าดีแล้วหรือเปล่า วันนี้หมอจะมาแนะนำการดูรีวิวปลูกผมที่ถูกต้องกันค่ะว่าต้องดูส่วนไหนบ้าง

  • เลือกคลินิกที่มีรีวิวผลลัพธ์ระหว่าง 6-18 เดือนให้ดูอย่างสม่ำเสมอ

ปัจจัยนี้สำคัญทีเดียวค่ะ เพราะยังมีหลายๆ คนที่เข้าใจผิดอยู่ว่าการดูรูปรีวิวปลูกผมหลังทำทันทีคือคิดว่าผมทั้งหมดที่ปลูกไปจะยาวต่อเลย หรือประสบความสำเร็จแล้วในการปลูกผม โดยภาพหลังทำช่วงนี้อาจช่วยให้เห็นถึงความหนาแน่นในการปลูก แต่ความแน่นก็ไม่ได้การันตีว่าผมจะขึ้นเช่นกันนะคะ เพราะหลัง 2 สัปดาห์ไป 98% ของผมที่ปลูกจะร่วงไปก่อน และจะเริ่มงอกกลับขึ้นมาใหม่ในช่วงเดือนที่ 3-4 โดยช่วงเวลานี้ผมจะงอกขึ้นมาประมาณ 10-15% เท่านั้นเองค่ะ และจะใช้เวลาอีกกว่า 12 เดือนที่มันจะกลับมาขึ้นเต็มที่ ดังนั้นควรเลือกดูรีวิวผลลัพธ์ในช่วง 6-18 เดือน ยิ่งเยอะยิ่งดีค่ะ

รู้ทันรีวิวปลูกผม 2

และจะดีกว่านั้นถ้ารีวิวปลูกผมจากคลินิกที่ลงมีความสม่ำเสมอ ให้เราสามารถดูความเสมอต้นเสมอปลายของผลงานของคุณหมอจากคลินิกปลูกผมนั้นๆ ได้ด้วยค่ะ จริงๆ แล้วปัจจัยข้อนี้ดูไม่ยากเลยค่ะ เพราะภาพผลลัพธ์ของแต่ละที่มันก็ฟ้องอยู่แล้ว (ฮา) แต่บางทีเราอาจลืมสังเกต หรือเราไม่รู้ว่าควรดูอย่างไร คราวนี้ลองสังเกตดูค่ะ เพราะว่าคลินิกบางแห่งที่มีรีวิวปลูกผมหนาบ้าง บางบ้าง สลับกันมีอยู่จริงๆ นะคะ หรือบางแห่งแทบจะไม่มีรีวิวที่ผมขึ้นแล้วจริงๆ เลย มีแต่รูปผลลัพธ์หลังปลูกทันทีให้ดูเท่านั้น ดังนั้นคงไม่มีใครอยากเอาชีวิตเส้นผมของเราไปเสี่ยงกับที่ที่ฝีมือขึ้นๆ ลงๆ หรอกจริงมั้ยคะ

ความเป็นธรรมชาติ

รู้ทันรีวิวปลูกผม 3
แนวผมที่ปลูกดูเป็นธรรมชาติ

นอกจากเรื่องปลูกผมขึ้นไม่ขึ้นแล้ว เรื่องความเป็นธรรมชาติก็ไม่ควรมองข้ามนะคะ โดยเฉพาะแนวผมด้านหน้า (Hairline) การปลูกผมให้ขึ้นดกและหนาว่ายากแล้ว แต่การปลูกผมให้ขึ้นและดูเป็นธรรมชาติด้วยนี่ขึ้นอยู่กับฝีมือด้านศิลปะของคุณหมอแต่ละท่านที่ไม่สามารถสอนกันได้ง่ายๆด้วยค่ะ ดังนั้นการดูแนวผมว่าเป็นธรรมชาติหรือไม่ ให้อิงจากแนวผมธรรมชาติจากคนที่ไม่เคยปลูกผม แล้วจะเห็นว่าจริงๆ แล้วแนวผมธรรมชาติจะไม่ได้เป็นเส้นตรงเป๊ะ แต่มีความยึกยักๆ อยู่และก็ไม่ได้หนาตั้งแต่แถวแรก แต่แนวผมจะค่อยๆ ไล่ความหนาจากแถวหน้าสุดเข้าไปค่ะ ซึ่งการปลูกผมที่ดีควรทำให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด ดังนั้นแนวผมแถวหน้าควรใช้เป็นกอหนึ่งเส้น หรือ  One-hair graft ซึ่งจะช่วยให้แนวผมดูเป็นธรรมชาติและไม่ดูแข็งเหมือนใส่วิกค่ะ

นอกจากเรื่องปลูกผมขึ้นไม่ขึ้นแล้ว เรื่องความเป็นธรรมชาติก็ไม่ควรมองข้ามนะคะ โดยเฉพาะแนวผมด้านหน้า (Hairline) การปลูกผมให้ขึ้นดกและหนาว่ายากแล้ว แต่การปลูกผมให้ขึ้นและดูเป็นธรรมชาติด้วยนี่ขึ้นอยู่กับฝีมือด้านศิลปะของคุณหมอแต่ละท่านที่ไม่สามารถสอนกันได้ง่ายๆด้วยค่ะ ดังนั้นการดูแนวผมว่าเป็นธรรมชาติหรือไม่ ให้อิงจากแนวผมธรรมชาติจากคนที่ไม่เคยปลูกผม แล้วจะเห็นว่าจริงๆ แล้วแนวผมธรรมชาติจะไม่ได้เป็นเส้นตรงเป๊ะ แต่มีความยึกยักๆ อยู่และก็ไม่ได้หนาตั้งแต่แถวแรก แต่แนวผมจะค่อยๆ ไล่ความหนาจากแถวหน้าสุดเข้าไปค่ะ ซึ่งการปลูกผมที่ดีควรทำให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด ดังนั้นแนวผมแถวหน้าควรใช้เป็นกอหนึ่งเส้น หรือ  One-hair graft ซึ่งจะช่วยให้แนวผมดูเป็นธรรมชาติและไม่ดูแข็งเหมือนใส่วิกค่ะ

รู้ทันรีวิวปลูกผม 4
แนวผมที่ปลูกขึ้นผิดทิศทาง
  • ระวังรูปรีวิวที่ถูกแต่งด้วย PHOTOSHOP

ข้อนี้อาจจะดูยากสักหน่อยนะคะ หากว่าคนไข้ไม่ได้คุ้นเคยกับโปรแกรมแต่งภาพอย่าง Photoshop แต่ให้สังเกตคุณภาพของภาพนั้นๆ คือต้องมีความชัดเจนตลอดทั้งภาพ หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพไม่ชัดโดยเฉพาะตรงแนวผมที่ปลูก ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจมีการแต่งภาพตรงนั้น อาจจะมีการถมให้ดำ หรือใช้เครื่องมือที่เรียกว่า clone stamp

  • รูปรีวิวต้องเป็นมุมเดียวกัน
รู้ทันรีวิวปลูกผม 5

ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยเช่น รูปก่อนปลูกผมใช้ที่คาดผมขึ้น เห็นแนวผมที่เว้าเข้าไปอย่างชัดเจน แต่รูปหลังปลูกผมกลับเอาผมจากข้างหลังมาปิดข้างหน้าไว้ แบบนี้เราไม่สามารถเห็นแนวผมใหม่ที่ปลูกได้เลยว่าขึ้นดีหรือไม่

อย่างที่เราเห็นๆ กันอยู่ค่ะว่าคลินิกปลูกผมในบ้านเราผุดขึ้นมาอย่างกับร้านสะดวกซื้อ ราคาถูกแพงแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าอ่านกันมาถึงตรงนี้อย่างน้อยหมอหวังว่าทุกคนจะ ได้รับประโยชน์จากบทความนี้นะคะและสามารถนำไปใช้เลือกคลินิกปลูกผมที่มีคุณภาพให้กับตัวเองกันได้ง่ายขึ้นนะคะ

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปลูกผม DHI
บทความ
Prima Tossaborvorn

ความเข้าใจผิดระหว่างวิธีปลูกผม DHI กับ FUE

หมอได้ยินคำถามจากคนไข้ต่างชาติว่าวิธีปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ดีกว่า วิธีปลูกผม FUE ยังไง คำถามนี้แอบทำให้หมอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากด้วยกลยุทธ์โฆษณาในปัจจุบัน บ่อยครั้งมันทำให้คนไข้เริ่มเข้าใจผิด หมออยากเขียนอธิบายเกี่ยวกับวิธีปลูกผม DHI และวิธีปลูกผม FUE ดังนี้ค่ะ

ช่องเสือร้องไห้ YOUTUBER ชื่อดัง เลือกเข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ HAIRSMITH CLINIC_1
บทความ
Prima Tossaborvorn

ช่องเสือร้องไห้ ยูทูปเบอร์ชื่อดัง เลือกเข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ Hairsmith Clinic

เมื่อช่องเสือร้องไห้ มีผู้ติดตามบนยูทูปกว่า 3 ล้านคน เข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ Hairsmith Clinic พบกับความสนุกสนานพร้อมสอดแทรกสาระความรู้การปลูกผม และสาระน่ารู้เกี่ยวกับเส้นผม

ปลูกผมแบบ NON-SHAVEN FUE กับ FUE ต่างกันอย่างไร_1
บทความ
Prima Tossaborvorn

ปลูกผมแบบ NON-SHAVEN FUE กับ FUE ต่างกันอย่างไร

เข้าใจลึกซึ้งในการเปรียบเทียบระหว่างการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE และ FUE ทั่วไป ทำความเข้าใจในข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี, รวมถึงการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด หาคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกระหว่างวิธีการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE หรือ FUE ทั่วไป ทำให้การตัดสินใจของคุณเป็นไปอย่างมีข้อมูลและมั่นใจ.

ทำไมถึงเลือกปลูกผมถาวรที่ HAIRSMITH CLINIC_1
ข่าวสาร
Prima Tossaborvorn

Buffet Channel ช่องยูทูปชื่อดังตัดสินใจปรึกษาปลูกผม

เติ้ลและชิน Buffet Channel เล่าถึงประสบการณ์ในการตัดสินใจปลูกผมที่ Hairsmith Clinic หลังจากได้เห็นรีวิวจากช่อง YouTube ของพี่ๆ เสือร้องไห้ หลังจากปรึกษากับแพทย์ที่คลินิก, รู้สึกประทับใจกับความเชี่ยวชาญและคำแนะนำที่ได้รับ ที่สำคัญ, การออกแบบแนวผมที่เหมาะสมกับรูปหน้า จึงตัดสินใจเลือกปลูกผมที่ Hairsmith Clinic รอติดตามผลลัพธ์กันได้เลย