Call now
+66858369994
Messenger
Line
Email
[email protected]

Hair Transplant in Bangkok, Thailand
+66858369994
Dr.Prima's Blog

บทความคุณหมอพรีมา

med or hair transplant for baldness

หัวล้าน รักษาด้วยยาหรือควรปลูกผม

หัวล้านทำไงดี

ก่อนอื่นอย่างที่หมอแนะนำและคอยบอกอยู่เสมอๆ นะคะว่าอย่าปล่อยให้ปัญหาเส้นผมบานปลายจนหัวล้าน ให้เริ่มสังเกตุตัวเองว่าผมร่วงในแต่ละวันอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติหรือไม่ ถ้าเริ่มเห็นว่ามีความผิดปกติของอาการผมร่วงจนเริ่มผมบาง และกำลังจะเข้าสู่ภาวะหัวล้านให้รีบไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้รักษาเส้นผมของเราเอาไว้ได้ทันเวลาค่ะ ส่วนที่หลายคนยังสับสนและไม่แน่ใจว่าปัญหาหัวล้านตกลงควรรักษาด้วยยาหรือปลูกผมเลยดี วันนี้มาหาคำตอบกันค่ะ

  • หัวล้านแบบหน้าผากเถิกกว้าง ตรงกลางศีรษะและด้านหลังหนาปกติ

baldness man

ในกรณีแบบนี้ต้องปลูกผมเพื่อทำการลดขนาดหน้าผากให้แคบลงเท่านั้นค่ะ ไม่สามารถรักษาด้วยยาได้ เนื่องจากบริเวณหน้าผากที่กว้างเถิกออกไปไม่มีรากผมอยู่ โดยการสร้างแนวผมใหม่หรือลดระดับแนวผมให้ต่ำลงมาต้องใช้วิธีการปลูกผมเท่านั้นค่ะ

  • หัวล้านแบบหน้าผากเถิกกว้าง ตรงกลางศีรษะมีลักษณะบางและมีอาการผมร่วงร่วมด้วย แต่ด้านหลังหนาปกติ

hair loss

กรณีนี้หากคนไข้อยากลดขนาดหน้าผากต้องปลูกผมค่ะ คล้ายกันกับกรณีแรก ส่วนตรงกลางศีรษะหมอจะแนะนำให้รักษาด้วยยาก่อนยังไม่ต้องปลูกผม ซึ่งยังมีโอกาสที่ผมบริเวณตรงกลางศีรษะที่แค่บางลงจะกลับมาหนาขึ้นได้ด้วยยาค่ะ

  • หัวล้านแบบหน้าผากเถิกกว้างไปจนถึงกลางศีรษะ แต่ด้านหลังหนาปกติ

Bald man

ถ้าหมอตรวจดูแล้วว่าด้านหน้าและตรงกลางไม่มีรากผมเหลืออยู่แล้ว แบบนี้ต้องรักษาด้วยการปลูกผมเท่านั้นค่ะ แต่ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณหัวล้านค่อนข้างกว้าง หมอก็จะต้องเช็คผมด้านหลังของคนไข้ก่อนด้วยว่ามีเพียงพอกับพื้นที่หัวล้านหรือไม่ ในบางกรณีที่คนไข้ต้องใช้จำนวนกราฟท์มากๆ หมอจะแนะนำให้ใช้ 2 เทคนิคการปลูกผมร่วมกันคือ FUT+FUE เพื่อให้ได้จำนวนกราฟท์ที่มากพอในการปลูกในบริเวณที่มีปัญหาค่ะ

  • หัวล้านแบบทั่วๆ ทั้งศีรษะและด้านหลังบาง

hair loss

ในกรณีแบบนี้หมอจะไม่แนะนำให้รักษาด้วยการปลูกผมนะคะ เนื่องจากบริเวณหัวล้านกว้างทั่วทั้งศีรษะ ถึงแม้จะยังมีรากผมอยู่บางๆ แต่บริเวณผมด้านหลังเหลือน้อย ถ้าปลูกผมไปก็จะยิ่งดูบางเข้าไปอีกเพราะจำนวนกราฟท์ผมที่ต้องใช้เพื่อนำมาปลูกเป็นจำนวนมาก ซึ่งผมด้านหลังของคนไข้ลักษณะนี้ไม่เพียงพออยู่แล้ว ดังนั้นหมอจะแนะนำให้คนไข้รักษาด้วยยาและทรีทเมนต์ต่างๆ ควบคู่กันไปก่อนเพื่อให้บริเวณที่ยังพอมีรากผมหนาขึ้นค่ะ ผลลัพธ์สุดท้ายของการรักษาด้วยยาและทรีทเมนต์ต่างๆ นี้จะอยู่ที่ระยะเวลาประมาณ 1 ปี พอครบปีแล้วหากบริเวณหัวล้านของคนไข้แคบลงก็ค่อยมาปลูกผมก็ยังไม่สายค่ะ

พอเข้าใจคอนเซ็ปท์ของการปลูกผมบ้างหรือยังคะว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่ทุกคนที่มีปัญหาภาวะหัวล้านจะสามารถปลูกผมได้ เพราะการปลูกผมคือการย้ายที่เส้นผมจากด้านหลังศีรษะมาปลูกบริเวณที่มีปัญหา ไม่ใช่การเพิ่มจำนวนเส้นผมบนศีรษะของเรา ดังนั้นหากใครที่ยังไม่มั่นใจว่าตัวเองเหมาะกับการรักษาแบบใดหมอแนะนำให้ไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเลยดีกว่านะคะ จะได้เริ่มการรักษาแบบถูกทาง

Prima Tossaborvorn

ผู้เขียน

พญ. พรีมา ทศบวร คือแพทย์ผิวหนังและศัลยกรรมปลูกผมที่รับรองโดย American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) และเป็นสมาชิกของ International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS) ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ Hairsmith Clinic ซึ่งเป็นคลินิกศัลยกรรมปลูกผมและรักษาโรคเกี่ยวกับเส้นผม

ดูบทความทั้งหมด

คุณคิดอย่างไรบ้าง

FREE CONSULTATION WITH OUR ABHRS-CERTIFIED SURGEON

Grow confidence with us!