PRP กับ STEM CELL แบบไหนดีกว่ากัน
การรักษาผมร่วงผมบางนอกจากการทานยาแล้ว การทำ PRP หรือ stem cell ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี แต่เคยสงสัยกันมั้ยคะว่าทั้งสองอย่างนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร แล้วจะเลือกทำอะไรดีมาหาคำตอบกัน
PRP เป็นการใช้เกล็ดเลือดเข้มข้นที่มีโปรตีนและ growth factor ต่างๆ มาฉีดที่หนังศีรษะเพื่อกระตุ้นให้ผมแข็งแรงขึ้น ชะลอหลุดร่วง เป็นเหมือนอาหารเสริมให้เส้นผมของเรา
ส่วน Stem cell คือการนำ cell จากรากผมมาสกัด แล้วฉีดกลับลงหนังศีรษะเพื่อให้เซลล์เหล่านี้มากระตุ้นรากผมให้ผลิตเส้นผมที่แข็งแรงขึ้น
จากภายนอกที่มองมาแล้วผลลัพธ์ก็คือทำให้มีผมหนามากขึ้นทั้งคู่ค่ะ ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยไหนหรือใครเอามาเทียบตรงๆ ว่าอันไหนดีกว่ากัน แม้แต่ในการประชุมสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติก็ไม่ได้เอามาเทียบกัน คลินิกที่ทำ stem cell ก็จะบอกว่า stem cell ดีกว่าเพราะมีราคาค่อนข้างสูง ส่วนคลินิกที่ทำ prp ก็จะเชียร์ prp แล้วคลินิกที่ทำทั้งคู่ก็จะเชียร์ stem cell เพราะแพงกว่านั่นเอง แต่ความจริงแล้วผลลัพธ์ไม่ได้ต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับว่า stem cell ของใครมีคุณภาพ หรือกระบวนการและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ PRP ของใครมีคุณภาพมากกว่า
- ข้อดีของ STEM CELL คือไม่ต้องทำบ่อย ปีละครั้งถึงสองครั้ง แต่ PRP ต้องทำถี่กว่า เป็นหลักเดือนละครั้งและสามเดือนครั้ง
- ข้อเสียของ STEM CELL คือมีราคาที่สูงกว่าชนิดที่ว่าเอาเงินไปปลูกผมได้เลย อีกข้อเสียนึงคือมันจะมีแผลเป็นเพราะต้องเจาะหนังศีรษะ แล้วถ้าต้องเจาะปีละครั้งห้าปีก็ 5 รู แต่ PRP เป็นการดูดเลือดของคนไข้เองจึงไม่มีแผลเป็นค่ะ
แต่ไม่ว่าจะเลือกรักษาด้วยวิธีไหน การสังเกตปัญหาเส้นผมของตัวเองแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะหากปล่อยให้ปัญหาบานปลายอาจถึงขั้นหัวล้านจนสายเกินแก้ค่ะ
