ภาวะผมเหม็นง่าย แก้อย่างไรให้ตรงจุด

ภาวะผมเหม็นง่าย แก้อย่างไรให้ตรงจุด_1

การรักษาความสะอาดก็เป็นอีกทางที่สามารถทำให้เรามีภาพลักษณ์ที่ดูดีขึ้นได้ แต่จะเป็นยังไงหากเราดูแลตัวเองดีแต่ดันมีกลิ่นผมเหม็นไม่พึงประสงค์โชยออกมาจากผมของเรา ใช่ค่ะ วันนี้เราจะมาพูดคุยกับในหัวข้อเรื่องภาวะผมเหม็น ที่น้อยคนนักที่จะรู้ ว่าอาการนี้มันมีอยู่จริง ทั้งยังลดทอนความมั่นใจของผู้คนในสังคมมานักต่อนัก และวิธีทางแก้ผมเหม็นที่ตรงจุด เพื่อให้เรากลับมายืนยืดอกอย่างมั่นใจต่อไปค่ะ

เช็คลิสต์กันก่อน เราเสี่ยงภาวะผมเหม็นมั้ยนะ

  1. สระผมเสร็จยังไม่ทันข้ามวัน ผมก็เหม็นขึ้นมาเสียอย่างงั้น ทั้ง ๆ ที่ไดร์ผมจนแห้งสนิทแล้ว
  2. ผมมีกลิ่นเหม็นคล้ายฟองน้ำเก่า กลิ่นอับ หรือกลิ่นขนหมาเปียก
  3. สระผมหลายรอบ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมช่วยก็ไม่หายเหม็น
  4. หมักผมด้วยยาหรือสมุนไพร ก็ช่วยได้แค่ในระยะเวลาสั้น ๆ

ทำความรู้จักภาวะผมเหม็น

ภาวะผมเหม็น หรือ Smelly hair syndrome เป็นภาวะความผิดปกติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ซึ่งเมื่อภาวะดังกล่าวเกิดขึ้น ก็จะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะเกิดความมันและกลิ่นเหม็นได้ง่ายกว่าปกติ อาการโดยทั่วไปจะคล้ายกับคนที่ไม่ได้สระผมนาน ๆ หรือกลิ่นเหมือนเวลาออกไปข้างนอกแล้วติดกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์เข้ามา ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นก็จะเป็นแบบตามเช็คลิสต์ด้านบน ไม่ว่าจะเป็น สระผมแล้วผมก็ยังเหม็นอยู่ มีกลิ่นผมคล้ายฟองน้ำเก่า ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมหรือหมักผมด้วยยาหรือสมุนไพรก็ช่วยได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้น

ภาวะผมเหม็นง่าย แก้อย่างไรให้ตรงจุด_2

สาเหตุของภาวะผมเหม็น

  1. ต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกินไป – เพราะไขมันถูกผลิตออกมามากจนเกินไป ทำให้เส้นผมของเรา ทำหน้าที่เสมือนกับฟองน้ำ ที่ดูดซับเอากลิ่นไม่พึงประสงค์และมลภาวะต่าง ๆ รอบตัวมาเก็บไว้ที่เส้นผม ทำให้ผมเหม็นไวกว่าที่ควรจะเป็น
  2. ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อมากกว่าปกติ – เหงื่อที่ออกมากเกินไป เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะเกิดการอับชื้นได้ง่าย ทั้งยังเกิดการหมักหมมของแบคทีเรียได้อีกด้วย
  3. ฮอร์โมน – การใช้ยาบางชนิด ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกายของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นยาคลายเครียด การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน การใช้ยาคุมกำเนิด ฯลฯ ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงกับฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ที่ทำหน้าที่ควบคุมไขมันบนหนังศีรษะ ที่เมื่อพอระดับฮอร์โมนเกิดไม่สมดุลขึ้นมา ต่อมไขมันจึงผลิตไขมันมากเกินไป ก็ส่งผลให้ผมเหม็นได้ค่ะ
  4. ผมเส้นเล็ก – คนที่มีผมเส้นเล็ก มักผมมันมากกว่าคนที่มีผมเส้นใหญ่ เนื่องจากมีรูขุมขนและปริมาณเส้นผมที่มากกว่า ทำให้มีต่อมไขมันที่มากกว่าตามไปด้วย
  5. เชื้อราบนหนังศีรษะ – หรือที่รู้จักกันในชื่อ กลากที่หนังศีรษะ (Tinea Capitis) เป็นเชื้อราที่ติดจากสัตว์สู่คน สามารถแพร่กระจายได้ทั้งในหมา แมว มนุษย์ และติดอยู่กับสิ่งของต่าง ๆ โดยเชื้อราตัวนี้มักพบในเด็กผู้ชาย ที่นอกจากจะทำให้เกิดภาวะผมเหม็นแล้ว ยังทำให้เกิดผมร่วงควบคู่ไปได้ด้วย
  6. โรคผิวหนัง – โรคผิวหนังต่าง ๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะผมเหม็นได้หากเกิดการติดเชื้อหรืออักเสบขึ้นมา เช่น โรคเซบเดิร์ม โรคสะเก็ดเงินที่หนังศีรษะ เป็นต้น

วิธีแก้ไขปัญหาผมเหม็นแบบตรงจุด

ในปัจจุบัน ภาวะผมเหม็นยังไม่มีวิธีรักษาอย่างแน่ชัด ยกเว้นเสียแต่ว่าต้นเหตุของปัญหา มาจากปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ เช่น หากมีภาวะผมเหม็นเพราะโรคกลากที่หนังศีรษะ เมื่อทำการรักษากลากจนหายแล้ว อาการผมเหม็นก็จะหายไป แต่หากเป็นปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เราก็สามารถลดความรุนแรงของภาวะนี้ได้ ดังนี้ค่ะ

  • สระผมให้บ่อย และเป่าผมให้แห้งทันที ไม่ปล่อยให้แห้งเอง
  • ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับหนังศีรษะ เช่น แชมพูเด็ก
  • หลีกเลี่ยงการใช้ครีมนวดผม หรือทรีตเม้นต์ที่ทำให้ผมมันมากขึ้น
  • ไม่แคะ แกะ เกาหนังศีรษะและเส้นผม เพื่อลดการกระตุ้นการขับน้ำมันออกมา
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เช่น สเปรย์ เจลแต่งผม น้ำมันต่าง ๆ เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีผลต่อความมันบนหนังศีรษะ
  • ไม่อยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน เพื่อลดการเกิดเหงื่อ
ภาวะผมเหม็นง่าย แก้อย่างไรให้ตรงจุด_3

สรุป หัวเหม็น แก้อย่างไร

ภาวะผมเหม็น หรือ Smelly hair syndrome เป็นภาวะความผิดปกติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะเกิดความมันและกลิ่นเหม็นได้ง่าย โดยลักษณะอาการจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นจากศีรษะ ที่ใกล้เคียงกับฟองน้ำเก่าหรือขนหมาเปียกน้ำ

เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากที่ไม่ได้สระผมเป็นเวลานาน การที่ร่างกายเกิดการผลิตไขมันและเหงื่อที่บริเวณหนังศีรษะในปริมาณที่มากกว่าปกติ การเป็นโรคทางผิวหนัง และการติดเชื้อรา ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหัวเหม็นได้ทั้งสิ้น

ในปัจจุบันการรักษาภาวะผมเหม็นที่ตรงจุด คือการรักษาโดยพิจารณาจากต้นเหตุ หากต้นเหตุเกิดจากโรคที่รักษาได้ ก็ต้องทำการรักษาโรคนั้น ๆ ให้หายเสียก่อน ภาวะผมเหม็นจึงจะหายตามไป แต่ถ้าหากเป็นสาเหตุที่เกิดจากสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การผลิตน้ำมันและเหงื่อที่มากเกินไป ก็สามารถบรรเทาความรุนแรงของภาวะผมเหม็นได้จากการสระผมให้บ่อยขึ้นและเป่าผมให้แห้งทันที ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน ลดการสัมผัสหนังศีรษะและเส้นผม เพื่อลดการผลิตน้ำมันที่มากขึ้น เป็นต้น

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

คุณหมอพรีมาเข้าร่วมงานประชุม World Congress ครั้งที่ 25
ข่าวสาร
Prima Tossaborvorn

คุณหมอพรีมาเข้าร่วมงานประชุม World Congress ครั้งที่ 25 จัดขึ้นที่กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ค

หมอพรีมาได้มีโอกาสเข้าร่วมงานประชุม World Congress ครั้งที่ 25 จัดขึ้นที่กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ค ซึ่งเป็นงานประชุมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเกี่ยวกับศัลยกรรมปลูกผม ที่นี่นับว่าเป็นศูนย์รวมของผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยจากทั่วโลกที่มาเสนอผลงานวิจัยใหม่ล่าสุดและแบ่งปันความรู้ทางวิชาการในวงการนี้

ปลูกผม DHI
บทความ
Prima Tossaborvorn

ความเข้าใจผิดระหว่างวิธีปลูกผม DHI กับ FUE

หมอได้ยินคำถามจากคนไข้ต่างชาติว่าวิธีปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ดีกว่า วิธีปลูกผม FUE ยังไง คำถามนี้แอบทำให้หมอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากด้วยกลยุทธ์โฆษณาในปัจจุบัน บ่อยครั้งมันทำให้คนไข้เริ่มเข้าใจผิด หมออยากเขียนอธิบายเกี่ยวกับวิธีปลูกผม DHI และวิธีปลูกผม FUE ดังนี้ค่ะ

ช่องเสือร้องไห้ YOUTUBER ชื่อดัง เลือกเข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ HAIRSMITH CLINIC_1
บทความ
Prima Tossaborvorn

ช่องเสือร้องไห้ ยูทูปเบอร์ชื่อดัง เลือกเข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ Hairsmith Clinic

เมื่อช่องเสือร้องไห้ มีผู้ติดตามบนยูทูปกว่า 3 ล้านคน เข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ Hairsmith Clinic พบกับความสนุกสนานพร้อมสอดแทรกสาระความรู้การปลูกผม และสาระน่ารู้เกี่ยวกับเส้นผม

ปลูกผมแบบ NON-SHAVEN FUE กับ FUE ต่างกันอย่างไร_1
บทความ
Prima Tossaborvorn

ปลูกผมแบบ NON-SHAVEN FUE กับ FUE ต่างกันอย่างไร

เข้าใจลึกซึ้งในการเปรียบเทียบระหว่างการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE และ FUE ทั่วไป ทำความเข้าใจในข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี, รวมถึงการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด หาคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกระหว่างวิธีการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE หรือ FUE ทั่วไป ทำให้การตัดสินใจของคุณเป็นไปอย่างมีข้อมูลและมั่นใจ.