Call now
+66858369994
Messenger
Line
Email
[email protected]

Hair Transplant in Bangkok, Thailand
+66858369994
Dr.Prima's Blog

บทความคุณหมอพรีมา

จริงหรือไม่ ปลูกผมที่ต่างประเทศดีกว่าปลูกผมที่ไทย

หากพูดถึงการศัลยกรรมปลูกผม ช่วง 5-6 ปีให้หลังมานี้ถือว่ามีการเติบโตขึ้นมาแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการมีบุคลากรของแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมที่มากขึ้น หรือมีสถานที่ให้บริการการปลูกผมที่เยอะขึ้นไม่แพ้กันทั้งในไทยและต่างประเทศ แล้วถ้าหากต้องเปรียบเทียบกันแล้ว การปลูกผมในต่างประเทศดีกว่าที่ไทยจริงหรือไม่? ในบทความวันนี้จึงยกเอาตัวอย่างเรื่องของอุตสาหกรรมการปลูกผมในบางประเทศ มาให้ทุกคนลองอ่านดูว่าเป็นยังไงบ้างค่ะ

อุตสาหกรรมปลูกผมในต่างประเทศ

หากจะพูดถึงประเทศที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมปลูกผมมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นประเทศตุรกี อ้างอิงจากเว็บไซต์ QUARTZ ที่ในช่วงหลายปีให้หลังมานี้ มีคลินิกปลูกผมมากมายที่เปิดตัวขึ้นเพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้านสุขภาพจากทั่วโลก ซึ่งจากการขยายตัวที่รวดเร็วขนาดนี้ ทำให้ในหลาย ๆ คลินิกจำเป็นที่จะต้องลดต้นทุนของตัวเองลงเพื่อทำราคาดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการในคลินิกของตน จนแทบจะไม่ได้สนใจคุณภาพของอุปกรณ์และประสิทธิภาพของน้ำยาแช่กราฟต์ที่ใช้ด้วยซ้ำ ทั้งยังมีการจ้างงานแรงงานต่างด้าวที่ได้ค่าตอบแทนต่ำ ให้มาทำการปลูกผมแทนผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยหมอประจำคลินิกจะทำหน้าที่เพียงให้คำปรึกษาแก่คนไข้เท่านั้น ไม่ได้ลงมือผ่าตัดปลูกผมเองแต่อย่างใด

อ่านเพิ่มเติม : อุตสาหกรรมปลูกผมในประเทศตุรกี

อุตสาหกรรมปลูกผมต่างประเทศ

เช่นเดียวกันกับประเทศอินเดีย ตามที่เว็บไซต์ CureBooking    บล็อกการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ได้พูดถึงประเทศอินเดียและโปแลนด์เอาไว้ว่าที่คลินิกปลูกผมผิดกฎหมายบางแห่ง ที่คนขับแท็กซี่ก็สามารถเป็นหมอปลูกผมได้ถ้าต้องการ แถมราคาเริ่มต้นในการปลูกผมก็ถูกเสียจนน่าตกใจ  แต่ในความถูกนี้มีค่าใช่จ่ายยิบย่อยอื่น ๆ ที่มักแฝงเข้ามาโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น ค่าปรึกษาเบื้องต้น ค่านัดหมายภายหลัง  เป็นต้น

หากใครสนใจที่จะปลูกผมที่อินเดีย อย่าลืมสอบถามราคาโดยละเอียดของแต่ละที่ให้ดีและระวังเรื่องความสะอาดเอาไว้ด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเรื่องของความสะอาดในห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ค่อนข้างไม่ได้มาตรฐานและเสี่ยงต่อการติดเชื้อซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงและอันตรายต่อตัวคนไข้มากเลยทีเดียว ในส่วนการปลูกผมของประเทศอื่น ๆ ในเอเชียอย่างจีน เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฯลฯ ก็มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากมายไม่แพ้กัน ซึ่งจะแตกต่างกับประเทศไทยในเรื่องของราคาที่ค่อนข้างจะแพงกว่านั่นเอง

การปลูกผมในทวีปยุโรปอย่างประเทศโปแลนด์ ที่ CureBooking บล็อกการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ก็ได้ให้ข้อมูลไว้ว่ามาตรฐานและราคาในการปลูกผมก็ใกล้เคียงกันกับอเมริกา ที่มีสถาบัน American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) ที่สมาคมปลูกผมนานาชาติอย่าง International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS) ยอมรับให้เป็นแห่งเดียวที่รับรองคุณสมบัติของแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมโดยเฉพาะ แต่จะแตกต่างกันตรงประเทศโปแลนด์นั้น มีคลินิกจำนวนไม่น้อยเลยที่มักจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแอบแฝงโดยไม่แจ้งให้คนไข้ทราบล่วงหน้า หรือแม้แต่เรื่องของค่าใช้จ่ายในเดินทางราคาสูงที่ผู้ที่ต้องการปลูกผมต้องแบกรับ และราคาที่ไม่น่าดึงดูดหากเทียบกับประเทศไทย

ทำให้มีชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยตัดสินใจจองตั๋วบินมาไทยเพื่อการปลูกผมโดยตรง เพราะราคาที่น่าสนใจและเชื่อมั่นในฝีมือของหมอไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

อ่านเพิ่มเติม :  ปลูกผม FUE กับ FUT แตกต่างกันยังไง

คลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานส่งผลกับคนไข้อย่างไร

การปลูกผมกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานเช่นเดียวกับหลาย ๆ ที่ เช่น ในประเทศตุรกีและอินเดีย คนที่ต้องแบกรับความเสี่ยงเอาไว้มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตัวของคนไข้เอง เพราะนอกจากคุณภาพของการปลูกผมที่ได้จะไม่ดีเท่าที่ควร มีโอกาสปลูกผมติดน้อย ในบางเคสก็มีการกำหนดแนวผมที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ เช่น แนวผมตรงเกินไป แนวผมแคบเกินไป จนต้องตามหาที่ปลูกแก้กันให้วุ่นวาย ยังมีเรื่องของความสะอาดที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งตัวเครื่องมือและห้องผ่าตัด ซึ่งอาจทำให้คนไข้มีการติดเชื้อระหว่างการปลูกผมได้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่เป็นผลดีต่อทั้งตัวคนไข้และผมที่เพิ่งปลูกไปแน่นอน

สิ่งที่คนปลูกผมไม่อยากเจอ

ปลูกผมที่ต่างประเทศดีกว่าปลูกที่ไทยจริงหรือไม่

ไม่ว่าจะที่ไทยหรือที่ต่างประเทศ มาตรฐานของการปลูกผมที่ดี ทั้งในแง่ของฝีมือ ประสบการณ์ จำนวนเคสที่ปลูกสำเร็จ ล้วนแล้วแต่ควรจะเป็นที่ยอมรับได้ตามหลักสากล ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีหมอปลูกผมที่มีฝีมือและได้รับการการันตีคุณสมบัติโดย ABHRS เช่นเดียวกันกับหมอปลูกผมในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งยังมีความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่ดี เรียกได้ว่าประเทศไทยของเราก็เก่งไม่แพ้ใครและไม่ด้อยไปกว่าที่ต่างประเทศเลยค่ะ

เทคนิคการเลือกคลินิกปลูกผมที่น่าเชื่อถือ

ราคาปลูกผมที่ไม่สมเหตุสมผล

อย่าเห็นแก่ของถูกหรือโปรโมชั่นเหมาปลูกราคาเบาแสนเบาจนไม่น่าจะเป็นไปได้ นั่นเป็นเพราะของที่ราคาถูก ย่อมมาพร้อมกับต้นทุนของเครื่องมือ น้ำยาและค่าแรงของบุคลากรที่ต้องถูกลดลงไปด้วย ซึ่งก็ต้องแลกมาด้วยผลลัพธ์ที่อาจจะไม่น่าพอใจนักก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม : ราคาปลูกผมที่ Hairsmith Clinic

การให้ข้อมูลการปลูกผมของแพทย์

ก่อนตัดสินใจปลูกผมที่ไหน เราควรที่จะทำนัดเข้าพบคุณหมอเพื่อปรึกษาในเบื้องต้นก่อน เพราะคลินิกที่ดีจะต้องสามารถไขข้อข้องใจและตอบคำถามของคนไข้ได้อย่างกระจ่างแจ้ง ไม่ปกปิดหมกเม็ดใด ๆ หากที่ไหนที่เราสนใจจะไปปลูกผมด้วย ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ครบตามที่เราสงสัยได้ ลองมองหาที่อื่นไว้เผื่อก็ไม่เสียหาย

ความเชี่ยวชาญของแพทย์

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการปลูกผมคือทักษะและความเชี่ยวชาญของหมอเจ้าของไข้ ยิ่งถ้าฝีมือของหมอที่ได้รับการการันตีความสามารถระดับสากลโดย ABHRS หรืออเมริกันบอร์ด ก็ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมา จะต้องเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน หรือถ้าหากต้องเลือกหมอที่เป็นอเมริกันบอร์ดเหมือนกัน ก็ให้เลือกดูที่ผลงานการปลูกผมที่ชอบของหมอแต่ละคนได้เลยค่ะ

เครื่องมือที่ใช้ในการปลูกผม

หากเป็นไปได้ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือที่คลินิกปลูกผมที่เราเลือกไว้สักหน่อยก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะก็ยังมีบางประเทศและบางคลินิกปลูกผมที่อาจจะยังคงใช้อุปกรณ์หรือเครื่องไม้เครื่องมือแบบเก่าอยู่เพื่อลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด เช่น การใช้คีม Forceps แบบเก่าแทน Implanter แบบใหม่ หรือแม้แต่การใช้น้ำแข็งแช่กราฟต์ แทนที่จะใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างการมีเครื่องควบคุมอุณหภูมิกราฟต์ผม เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม : เครื่องควบคุมอุณหภูมิสำหรับการปลูกผม

Cooling system

คุณภาพของน้ำยาแช่กราฟต์

คุณภาพของน้ำยาแช่กราฟต์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญมากในการปลูกผม เพราะหลังจากที่เจาะเอากราฟต์ผมออกมาแล้ว เราต้องแช่กราฟต์ผมเก็บเอาไว้ในสารละลายเพื่อป้องกันไม่ให้กราฟต์แห้งตาย ซึ่งกว่ากว่า 50% ของคลินิกปลูกผมทั่วไป เลือกที่จะใช้น้ำเกลือธรรมดาเพราะมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย แต่ไม่มีส่วนช่วยเพิ่มอัตรารอดชีวิตของกราฟต์ผมแม้แต่น้อย หากเทียบกับ HypoThermosol ที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์รากผมอยู่รอดได้นานถึง 5 วัน ถือได้ว่าเป็นน้ำยาแช่กราฟต์ตัวตึงที่ดีที่สุดในวงการปลูกผมเลยล่ะค่ะ

อ่านเพิ่มเติม : Hypothermosol น้ำยาแช่กราฟท์สำหรับศัลยกรรมปลูกผม

ผลงานการปลูกผมของทางคลินิก

อย่างที่เคยพูดเขียนไว้ในบทความก่อน ๆ ที่ว่าหากเราต้องการจะดูรีวิวปลูกผมนั้น ให้ดูรีวิวที่ปลูกไปแล้ว 6 เดือนถึง 1 ปี เป็นเพราะว่าผมที่เพิ่งปลูกเข้าไปนั้น ไม่สามารถการันตีได้เลยว่าผมจะขึ้น 100% จึงอาจทำให้ดูหลอกตาว่ารีวิวหลังปลูกทันทีนั้น คือผลลัพธ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วนั่นเอง

June 2023 hair transplant 12 months result
June 2023 hair transplant 12 months result
June 2023 hair transplant 12 months result

สรุป

อุตสาหกรรมการปลูกผมทั่วโลกเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ทำให้มีบางประเทศที่อาศัยโอกาสตรงนี้เปิดคลินิกปลูกผมที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งเรื่องของความสะอาด การลดต้นทุน รวมไปถึงการใช้บุคคลทั่วไปมาทำการปลูกผมแทนที่จะเป็นหมอ หรือหากเป็นคลินิกปลูกผมที่ถูกกฎหมาย ก็ยังมีบ้างบางแห่งที่ใช้วิธีเก็บเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมโดยไม่แจ้งให้คนไข้ทราบล่วงหน้า ซึ่งคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้นั้น ถือเป็นความเสี่ยงทั้งต่อความปลอดภัยของคนไข้และผลลัพธ์การปลูกผมที่จะออกมาด้วยเช่นกัน

หากถามว่าการปลูกผมที่ต่างประเทศดีกว่าที่ไทยจริงมั้ย ขอตอบเลยว่าไม่จริง เพราะการปลูกผมที่ดี ทุกที่ต้องมีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเทียบเท่ากันทั้งหมด ซึ่งประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีหมอเก่ง ๆ ที่ได้รับการรับรองจาก ABHRS เช่นเดียวกับต่างประเทศ โดยเทคนิคในการเลือกคลินิกปลูกผมสำหรับคนที่สนใจนั้น สามารถเลือกได้จากราคา การให้ข้อมูลต่าง ๆ ความเชี่ยวชาญของหมอ เครื่องมือที่ใช้ คุณภาพน้ำยาแช่กราฟต์ และผลงานการปลูกผมระยะยาวของทางคลินิก เป็นต้น ถ้าใครศึกษามาดีแล้วก็ลุยเลยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปนะคะ

Prima Tossaborvorn

ผู้เขียน

พญ. พรีมา ทศบวร คือแพทย์ผิวหนังและศัลยกรรมปลูกผมที่รับรองโดย American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) และเป็นสมาชิกของ International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS) ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ Hairsmith Clinic ซึ่งเป็นคลินิกศัลยกรรมปลูกผมและรักษาโรคเกี่ยวกับเส้นผม

ดูบทความทั้งหมด

คุณคิดอย่างไรบ้าง

FREE CONSULTATION WITH OUR ABHRS-CERTIFIED SURGEON

Grow confidence with us!