จะตัดสินใจปลูกผมทั้งที ก็ต้องมีการเตรียมตัวหาข้อมูลอย่างละเอียดกันมาก่อนอยู่แล้ว แต่ก็มีบ้างบางครั้ง ที่หลายๆ คนก็อาจจะไม่แน่ใจ ว่าควรเริ่มหาข้อมูลจากตรงไหนก่อนดี ถึงจะครอบคลุมคำถามที่สงสัยทั้งหมด วันนี้ทาง Hairsmith Clinic เลยนำ 10 คำถามยอดฮิต ที่มักถูกถามเข้ามาทั้งก่อนและหลังการปลูกผม มาลองดูกันว่ามีคำถามอะไรที่ตรงใจคนที่กำลังวางแผนจะปลูกผมอยู่บ้าง
คำถามที่ 1 กราฟท์ผมคืออะไร
กราฟท์ผม (Graft) หรือกอผมที่แพทย์ผู้ปลูกผมจะทำการเจาะออกมา ก่อนจะย้ายไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ โดยใน 1 กราฟท์ผม จะมีเส้นผมตั้งแต่ 1, 2, 3 หรือ 4 เส้นก็ได้ รวมอยู่ในรูขุมขนเดียวกัน แต่โดยส่วนมากกว่า 50% ของกราฟท์ผมโดยทั่วไป จะมีเส้นผมอยู่ประมาณ 2 เส้น

คำถามที่ 2 ปลูกผมราคาเท่าไหร่
ราคาปลูกผมของแต่ละสถานที่จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของงาน ความสวยงามเป็นธรรมชาติ ประสบการณ์ของแพทย์ เครื่องไม้เครื่องมือ เช่น เครื่องเจาะ นำยาแช่กราฟท์ เป็นต้น แต่ในส่วนของราคาค่าปลูกผมที่ Hairsmith Clinic จะอยู่ที่ 75 บาทต่อกราฟท์ และแบบ Non-Shaven หรือการปลูกผมแบบไม่โกนผมจะอยู่ที่ 140 บาทต่อกราฟท์
อ่านเพิ่มเติม : ปลูกผมราคาเท่าไหร่ มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง
คำถามที่ 3 ปลูกผมเจ็บมั้ย
สำหรับการปลูกผมแบบ FUE คนไข้จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยแค่ในขั้นตอนของการฉีดยาชา แล้วเมื่อยาชาออกฤทธิ์คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลยทั้งในช่วงระหว่างการผ่าตัดและหลังผ่าตัด แต่ถ้าเป็นการปลูกผมแบบ FUT ซึ่งจะต้องมีการผ่าเอากราฟท์ผมออกไป คนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บแผลนิดหน่อยหลังการปลูกผม และอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย อาการปวดจึงจะหายไป
คำถามที่ 4 ใช้เส้นผมจริงหรือเส้นผมสังเคราะห์ในการปลูกผม
เส้นผมที่เรานำมาปลูกให้คนไข้ จะเป็นเส้นผมที่ย้ายมาจากบริเวณด้านหลังของคนไข้เอง ซึ่งจะเป็นเส้นผมที่แข็งแรงและเติบโตได้ตามปกติเหมือนเส้นผมทั่วไป ไม่มีการใช้เส้นผมสังเคราะห์แน่นอน 100% เนื่องจากเส้นผมสังเคราะห์ที่ใช้ในการปลูกผมนั้น ถือเป็นวัตถุที่ย่อยสลายไม่ได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อใต้ผิวหนังและอาจส่งผลกระทบในระยะยาว
คำถามที่ 5 ปลูกผมต้องโกนผมมั้ย
ถ้าเป็นการปลูกผมแบบ FUE จะมีการโกนผมด้านหลังหลังออกแปรผันตามจำนวนกราฟท์ที่ปลูก เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและต่อการเอากราฟท์ผมออกมา แต่ถ้าคนไข้ปลูกผม Non-Shaven FUE ก็จะไม่มีการโกนผม แต่จะเป็นการเจาะเอากราฟท์ผมออกมาทั้งเส้นแทน

คำถามที่ 6 หลังปลูกผมต้องพักฟื้นนานมั้ย
เนื่องจากการปลูกผมถือเป็นการผ่าตัดเล็ก จึงทำให้หลังจากปลูกผมไม่จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ซึ่งการปลูกผมแบบ FUE แผลที่เกิดจากการเจาะกราฟท์ผม จะมีขนาดเล็กกว่า 1 มม. ทำให้ประมาณ 3-7 วัน แผลด้านหลังก็จะหายได้สนิทแล้ว ยกเว้นวิธีปลูกผมแบบ FUT ที่แผลจะมีแผลยาว 15-20 ซม. และจะต้องมีการกลับมาให้คุณหมอตัดไหมหลังจากปลูกผมไป 7-10 วัน
คำถามที่ 7 ปลูกผมแล้ว จะเห็นผลเมื่อไหร่
ศัลยกรรมปลูกผมถือเป็นโปรเจกต์ที่ต้องดูกันยาวๆ 12 เดือน เนื่องจากผมที่เพิ่งปลูกเข้าไปใหม่ จะหลุดร่วงออกไปก่อนในระยะ 2-4 สัปดาห์แรก จากนั้นจึงจะทยอยงอกขึ้นมาใหม่ประมาณ 10-20% ในเดือนที่ 3 และเส้นผมจะเติบโตอย่างเต็มที่ใน 12 เดือนหรือ 1 ปีเต็มนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : ปลูกผมนานแค่ไหนรากผมถึงจะฝังตัว
คำถามที่ 8 มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนมั้ยหลังปลูกผมหรือไม่
การปลูกผมถือเป็นการผ่าตัดขนาดเล็กที่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังปลูกผมได้น้อย แต่ก็มีบ้าง ที่ในคนไข้บางรายจะเกิดอาการแดง เป็นสิวในบริเวณที่ปลูกและท้ายทอย ไปจนถึงมีอาการบวมบริเวณหน้าผากและรอบดวงตาได้ แต่อาการทั้งหมดเหล่านี้จะสามารถหายไปเองได้ในระยะไม่นาน
คำถามที่ 9 ปลูกผมมีโอกาสขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์
จากสถิติและประสบการณ์ที่ Hairsmith Clinic เราคาดหวังว่าผมของคนไข้ควรจะขึ้นมากกว่า 95% นอกจากนี้เรายังมีการการันตีผลลัพธ์ที่ได้ ทำให้คนไข้สามารถมั่นใจได้เลยว่าหลังจากปลูกผมกับทาง Hairsmith Clinic ไป คนไข้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน


คำถามที่ 10 หลังปลูกผมควรดูแลตัวเองยังไง
ในช่วง 2 สัปดาห์แรก จะเป็นช่วงเวลาที่ต้องดูแลผมที่ปลูกไปเป็นพิเศษ ในช่วงนี้คนไข้ควรงดออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ และสวมหมวกทุกครั้งที่ต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ นอกจากนี้ยังไม่ควรแกะ เกาสะเก็ดหรือผมในบริเวณที่ปลูก พอหลังจากพ้นช่วงนี้ไปแล้ว คนไข้ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้เลย ยกเว้นว่ายน้ำกับซาวน่าที่จะต้องขอให้งดไปก่อนจนกว่าจะครบ 1 เดือน
อ่านเพิ่มเติม : วิธีการดูแลตัวเองหลังปลูกผม
สรุป
จะเห็นได้ว่าการปลูกผมไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะนอกจากแทบจะไม่ต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวแล้ว แผลเจาะที่ได้ยังมีขนาดเล็กและสามารถหายได้ไวภายในระยะเวลาไม่นาน อีกทั้งการดูแลหลังการปลูกผมก็ไม่ต่างจากการใช้ชีวิตปกติมากนัก เพียงแค่ต้องดูแลเป็นพิเศษเล็กน้อยในระยะเวลา 2 สัปดาห์แรกเท่านั้น ซึ่งถ้าหากใครที่กำลังสนใจปลูกผมหรือกำลังหาข้อมูลในการปลูกผมอยู่ แล้วมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามมาได้ทุกช่องทางการติดต่อของ Hairsmith Clinic