สิ่งที่สร้างความมั่นใจให้ผู้หญิงได้เป็นอันดับต้นๆ เลย นั่นคือการมีผมที่สวยเงางามสุขภาพดี แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันหนึ่งเส้นผมที่เราภูมิใจกลับเริ่มทยอยร่วงหนักขึ้นจนอาจทำให้เรากลายเป็น ผู้หญิงหัวล้าน! เชื่อว่าคงมีสาวๆ จำนวนไม่น้อยเลยที่วิตกกังวลกับปัญหานี้แน่ๆ แล้วสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงอย่าเราๆ หัวล้านคืออะไร รวมไปถึงวิธีการรักษาและป้องกันไม่ให้ภาวะหัวล้านเข้ามาแวะเวียนก่อนวัยอันสมควร
ผู้หญิงหัวล้าน เกิดจากอะไร
แม้ว่าจะน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างสองเพศ ผู้หญิงก็สามารถมีภาวะหัวล้านเช่นเดียวกันกับผู้ชายได้ นั่นเป็นเพราะกว่า 1 ใน 3 ของประชากรเพศหญิงเคยประสบปัญหาผมร่วงมากกว่าปกติมาแล้ว และมากกว่า 2 ใน 3 ของผู้หญิงสูงวัยที่กำลังเผชิญหน้ากับภาวะหัวล้านในวัยหมดประจำเดือน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงหัวล้านได้นั้นใกล้เคียงกับของผู้ชาย เพียงแต่จะแตกต่างกันในเรื่องของลักษณะและรูปแบบการล้าน โดยสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงหัวล้านได้ เกิดมาจาก
ฮอร์โมน
ภาวะผมร่วงที่เกิดขึ้นทั้งในเพศชายและเพศหญิงมีชื่อเรียกว่าภาวะผมร่วงแบบแอนโดรจีนิค (Androgenic alopecia) โดยหลักการที่ทำให้เกิดผมร่วงนั้น เกิดจากการที่ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) หรือก็คือฮอร์โมนเพศชายที่พบได้ทั้งในชายและหญิงเปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมนดีไฮโดรเทสโทสเทอโรน (Dihyodrotestoserone) หรือ DHT ซึ่งเจ้าฮอร์โมนตัวนี้นับว่าเป็นอันตรายต่อรากผมมากๆ เพราะจะทำให้เส้นผมมีช่วงเวลาเจริญเติบโตสั้นลงและมีช่วงระยะพักตัวมากขึ้น ทำให้เส้นผมที่งอกใหม่ขึ้นมามีลักษณะเส้นเล็ก ลีบ และอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นภาวะผมบางในที่สุด
แม้ว่าฮอร์โมน DHT จะมีอยู่ในร่างกายของผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศหญิงที่มีผลต่อต้านฮอร์โมน DHT ไม่ให้สำแดงฤทธิ์ได้มากนัก ทำให้ในผู้หญิงมีจำนวนคนหัวล้านน้อยกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในวัยสาว แต่พอเมื่อเริ่มแก่ตัวลง ฮอร์โมนเพศหญิงที่มีก็จะมีปริมาณลดลงไปเรื่อยๆ ส่งผลให้ฮอร์โมน DHT กลับมาผงาดอีกครั้งและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะหัวล้านในที่สุด
หลังเกิดการบาดเจ็บหรือเพิ่งผ่าตัด
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เราอยู่ในอาการที่ไม่สบายกายไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดบาดแผลขนาดใหญ่ เช่น อุบัติเหตุหรือเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดมาไม่นาน เส้นผมของเราจะหยุดขั้นตอนการเจริญเติบโตและเข้าสู่ระยะพักตัวไวขึ้น ถือเป็นการปรับตัวของระบบร่างกายที่จะพักการส่งสารอาหารไปหล่อเลี้ยงสิ่งที่ถูกมองว่าไม่จำเป็นเสียก่อนและจดจ่ออยู่กับการซ่อมแซมร่างกายส่วนที่บาดเจ็บเป็นอันดับแรก ทำให้ในระยะหนึ่ง เส้นผมจะทยอยหลุดร่วงออกไปก่อน แต่เมื่อร่างกายรักษาตัวเองหายดีเมื่อไหร่ เส้นผมก็จะกลับมางอกตามปกติได้เหมือนเดิม
ผมร่วงจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุล
ในกรณีนี้มักเกิดกับผู้หญิงที่เข้ารับการรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมน เช่น รักษาสิว การใช้ฮอร์โมนทดแทนในผู้ที่เข้าวัยทองหรือการคุมกำเนิดด้วยการใช้ยาฮอร์โมน อย่างการทานยาคุม ฝังยาคุมและฉีดยาคุมเป็นต้น ซึ่งการรักษาใดๆ ที่มีเรื่องของฮอร์โมนเข้ามาเกี่ยวข้อง จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดความไม่สมดุลและส่งผลให้เส้นผมที่อยู่ในระยะพักและหลุดร่วงได้ ซึ่งถ้าทำการรักษาเสร็จแล้วหรือร่างกายสามารถปรับตัวเข้ากับฮอร์โมนได้แล้ว อาการผมร่วงก็จะทุเลาลงได้เอง
ผมร่วงหลังคลอด
เช่นเดียวกันกับสาเหตุผมร่วงจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ในกรณีของหญิงมีครรภ์ ที่ในขณะตั้งครรภ์ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ออกมามากกว่าปกติ จนหลายคนดูสวย เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลมากขึ้น แต่พอหลังจากคลอดแล้วผมกลับร่วงมากกว่าปกติไปเสียอย่างนั้น นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนที่เพิ่มมาในตอนท้อง กลับไปสู่สภาวะปกติเหมือนเช่นในตอนแรก แต่ร่างกายยังปรับตัวไม่ทัน จึงเกิดเป็นอาการผมร่วงหลังคลอดนั่นเอง โดยอาการเหล่านี้อาจจะกินเวลาประมาณ 3-6 เดือน ก่อนจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ผมร่วงจากการใช้ยาบางประเภท
ในการรักษาโรคบางโรค ยาบางตัวมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดผมร่วงได้เมื่อใช้ไปสักพัก เช่น ยารักษาสิว ยาที่ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต หรือที่เห็นได้ชัดเจนคือการรักษาด้วยเคมีบำบัดอย่างคีโม เป็นต้น ซึ่งในกรณีที่การรักษาด้วยยาทำให้เกิดผมร่วง เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ เพื่อหาแนวทางในการรักษาด้วยวิธีอื่น หรืออาจจะต้องมีการปรับลดโดสยาลง เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับผลกระทบมากเกินไป แต่สิ่งที่ไม่ควรทำที่สุดคือการหยุดยาหรือปรับโดสยาด้วยตัวเอง เพราะอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงอื่นๆ ที่จะส่งผลทำให้การรักษาต้องยืดระยะเวลาออกไปนั่นเอง
ผลร่วงจากพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง
พฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเรา อาจเป็นหนึ่งสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เรากลายเป็นผู้หญิงหัวล้านได้ โดยพฤติกรรมที่ชัดเจนที่สุดในการทำร้ายเส้นผม ได้แก่ การยืดผม ดัดผมด้วยความร้อน และการทำสีผม ซึ่งทั้งความร้อนและสารเคมีที่ใช้ ถือว่าเป็นศัตรูตัวร้ายของเส้นผม ที่สามารถเข้าไปทำลายเส้นผมได้ถึงแกนเลยทีเดียว นอกจากนี้การมัดผมแน่นๆ เป็นประจำ ก็มีส่วนทำให้ผมร่วงลงได้จากการถูกดึงรั้งเป็นเวลานาน
รูปแบบหัวล้านในผู้หญิง
รูปแบบหัวล้านในผู้หญิงจะแตกต่างกับของผู้ชายนิดหน่อย เพราะลักษณะหัวล้านในผู้หญิงนั้น จะเริ่มจากจุดเล็กๆ ที่บริเวณกลางศีรษะหรือรอยแสกผม ก่อนจะค่อยๆ ลุกลามกินพื้นที่เป็นวงกว้างเป็นรูปไข่ดาวและกลายเป็นหัวล้านตรงกลางหัวถ้าหากปล่อยเอาไว้นานๆ แต่ก็มีที่ผู้หญิงจะมีรูปแบบหัวล้านแบบผู้ชาย ซึ่งจะเริ่มจากการเถิกร่นเป็นรูปตัวเอ็มตรงบริเวณหน้าผากและล้านกลางหัวไปพร้อมๆ กัน แต่พบได้น้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับรูปแบบปกติ
หัวล้านมากแค่ไหนควรพบแพทย์
จริงๆ ถ้าหากผมเริ่มร่วงมากกว่าปกติก็สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาได้แล้ว ไม่ควรปล่อยเอาไว้นานๆ จนอาการเริ่มรุนแรงขึ้น เพราะการรักษาก็จะยากขึ้นไปอีกเช่นกัน โดยการสังเกตตัวเอง สามารถตรวจดูได้จากปริมาณผมร่วง ต่อวันได้หากเกิน 100 เส้นขึ้นไปหรือมากกว่า 200 เส้นในวันที่สระผมก็ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้แล้ว อย่ารอให้ปัญหาผมร่วงเกิดขึ้นจนพรากความมั่นใจไปจากคุณ
วิธีรักษาผู้หญิงหัวล้าน
รักษาด้วยการทานยา
ว่าด้วยเรื่องของตัวยาที่ช่วยรักษาเรื่องหัวล้านได้ มีอยู่ 2 ชนิดที่เป็นที่นิยมและให้ผลลัพธ์ที่ดี นั่นคือไมนอกซิดิล (Minoxidil) และฟีนาสเตอไรด์ (Finasteride)
– ไมนอกซิดิล (Minoxidil)
ป็นยาที่ทำหน้าที่ขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงรากผมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดการชะลอการหลุดร่วงลงและยังกระตุ้นการงอกของเส้นผม ทำให้เส้นผมอยู่ในระยะเจริญเติบโตได้นานขึ้นกว่าเดิม แต่จะมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น การทำให้เส้นขนส่วนอื่นๆ ในร่างกายงอกมากขึ้นตามไปด้วยได้
– ฟีนาสเตอไรด์ (Finasteride)
ยารักษาโรคต่อมลูกหมากโต ออกฤทธิ์โดยการเข้าไปช่วยลดการเกิดฮอร์โมน DHT ที่มาจากฮอร์โมนเพศชาย หรือ Testosterone ทำให้เส้นผมที่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT มีเส้นที่หนาและดกดำมากยิ่งขึ้นได้ ข้อเสีย เป็นยาที่อันตรายต่อเพศหญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะฟีนาสเตอไรด์ออกฤทธิ์กับฮอร์โมนเพศ DHT โดยตรง ทำให้ผู้หญิงที่ใช้ยานี้ห้ามตั้งครรภ์เพราะอาจส่งผลกระทบกับทารกได้ รวมไปถึงยังห้ามบริจาคเลือดอีกด้วย อย่างไรก็ตามคนไข้ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้ยา
รักษาด้วยการปลูกผม
หากการทานยาไม่สามารถช่วยทำให้ปัญหาหัวล้านดีขึ้นได้ การปลูกผมจึงเป็นคำตอบสุดท้ายที่จะสามารถมอบผลลัพธ์ที่ดีให้คุณ เพราะเส้นผมที่ถูกนำมาปลูก เป็นเส้นผมที่อยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยจากฮอร์โมน DHT ผมที่ปลูกไปจึงเป็นผมถาวร จะไม่ร่วงหรือกลับไปบางจนล้านได้อีก
รักษาด้วยทางเลือกอื่นๆ ทางการแพทย์
การรักษาด้วยทางเลือกอื่นๆ จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยส่งเสริมให้เส้นผมและรากผมมีความแข็งแรงมากขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผมได้ โดยวิธีที่ว่ามีดังนี้
– เลเซอร์ LLLT
การฉายคลื่นแสงความถี่ต่ำ (Low Level Laser Light) เข้าไปที่หนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ช่วยให้เส้นผมงอกและมีคุณภาพยิ่งขึ้น แถมยังสามารถลดอาการอักเสบของแผลบนหนังศีรษะได้ด้วย
– รักษาด้วยทรีทเม้นต์ PRP
เป็นการดึงเลือดจากตัวคนไข้เองออกมา ก่อนจะนำไปปั่นแยกเอาเกล็ดเลือดเข้มข้นที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ก่อนจะฉีดกลับเข้าไปที่บริเวณหนังศีรษะ ทำเพื่อฟื้นฟูรากผม กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดฝอยที่หนังศีรษะ ทำให้ผมกลับมาหนา สุขภาพดีดังเดิม
5 วิธีป้องกันไม่ให้เป็นผู้หญิงหัวล้าน
ก่อนจะกลายเป็นผู้หญิงหัวล้าน เรามาดูวิธีการป้องกันตัวเองกันก่อน ซึ่งแต่ละวิธีเป็นวิธีที่ง่ายและสามารถทำเองที่ไหนก็ได้
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำร้ายผม
หากใครที่ชอบยืด ดัด ทำสี หรือชอบมัดผมแน่นๆ เป็นเวลานานๆ การลดหรือการเว้นระยะเวลาให้เหมาะสม ก็สามารถช่วยเซฟเส้นผมในระดับหนึ่ง
2. ทานอาหารที่มีประโยชน์
การดูแลตัวเองจากภายในสำคัญไปไม่น้อยกว่าการดูแลจากภายนอก หากเป็นไปได้นอกจากอาหารที่ควรทานให้ครบ 5 หมู่ แล้วการทานวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผมอย่าง สังกะสี ไบโอตินและวิตามินต่างๆ เสริมเข้าไปก็ช่วยให้โอกาสในการพบแพทย์เรื่องหัวล้านลดลงได้แล้ว
3. ห่างไกลความเครียด
เพราะทุกครั้งที่เราเครียดร่างกายจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่าคอติซอลออกมา ซึ่งไม่ดีต่อเส้นผมเอามากๆ การทำจิตใจให้สดใสอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ
4. ออกกำลังกายเป็นประจำ
เช่นเดียวกับการทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายช่วยส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อร่างกายแข็งแรงแล้วเส้นผมก็จะแข็งแรงตามไปด้วยเช่นกัน
5. ไม่ซื้อยาทานเอง
โดยเฉพาะยาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนในร่างกายเพราะอาจทำให้เกิดผมร่วงได้แบบไม่รู้ตัวในกรณีที่แพ้หรือเกิดภาวะไม่สมดุลของฮอร์โมน
สรุป
สาเหตุหลักๆ ของการเป็นผู้หญิงหัวล้าน เกิดจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเป็นส่วนใหญ่ ทั้งยังสามารถเกิดได้จากการบาดเจ็บ ฮอร์โมน ผมร่วงหลังคลอดหรือการกินยาบางชนิดที่มีผลกระทบต่อเส้นผม วิธีการรักษาสามารถรักษาได้ทั้งแบบทานยาและวิตามินที่ช่วยให้ผมแข็งแรง รวมไปถึงยังสามารถรักษาด้วยทางเลือกอื่นๆ อย่างการทำ PRP การใส่หมวกเลเซอร์ LLLT เป็นต้น แต่ถ้าหากว่าเราดูแลเส้นผมเป็นอย่างดีแล้วแต่ผมก็ยังบางจนเกือบล้านอยู่ การปลูกผมก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยเรียกความมั่นใจของคุณให้กลับมาได้อย่างถาวรแน่นอน