fbpx

ยาปลูกผม คืออะไร สามารถซื้อมากินเองได้มั้ย

/
/
ยาปลูกผม คืออะไร สามารถซื้อมากินเองได้มั้ย
ซื้อยาปลูกผมมากินเองได้มั้ย_1

ผมบางหรือหัวล้าน อาจฟังดูเป็นเรื่องเล็กๆ สำหรับบางคน แต่สำหรับหลายๆ คน นี่คือปัญหาที่บั่นทอนความมั่นใจได้มากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคม การทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน การที่ผมบางจนเห็นหนังศีรษะชัดเจนหรือมีเส้นผมที่ร่วงหลุดง่าย อาจทำให้เรารู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง ปัจจุบันการแก้ปัญหานี้มีหลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือ ยาปลูกผม ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญที่หลายคนหันมาให้ความสนใจ แต่ยาปลูกผมคืออะไร? ใช้งานอย่างไร? และได้ผลจริงหรือไม่? วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้แบบเจาะลึก พร้อมคำแนะนำที่เข้าใจง่าย

ยาปลูกผม คือยาที่ช่วยฟื้นฟูปัญหาผมร่วงหรือผมบาง โดยมุ่งเน้นให้เส้นผมงอกขึ้นใหม่ หรือช่วยลดอัตราการหลุดร่วงของเส้นผม มักเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจาก พันธุกรรม หรือปัญหาจากฮอร์โมน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาหัวล้านในผู้ชายและผมบางในผู้หญิง

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หัวล้านเกิดจากอะไร วิธีแก้ปัญหาหัวล้าน

ยาปลูกผมที่ได้รับการยอมรับและผ่านการวิจัยจนมีผลลัพธ์ชัดเจนมี 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่

ยาปลูกผม

1. ฟีนาสเทอร์ไรด์ (Finasteride)

เป็นยากินแก้ผมร่วง ผมบาง เป็นยาแก้ผมร่วงที่ใช้ได้ในเฉพาะผู้ชายเท่านั้น ซึ่งยาตัวนี้จะทำงานโดยการลดอัตราการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ให้เป็น DHT ที่เป็นสาเหตุของอาการผมร่วง ไม่สามารถใช้ในผู้หญิงได้ เพราะมีผลข้างเคียงมากและไม่เห็นผล ซึ่งในการใช้ยาจะเริ่มเห็นผลเมื่อใช้ 4-6 เดือนขึ้นไป แต่เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนเมื่อใช้ 1 ปีขึ้นไป

  • หลักการทำงานของยา Finasteride

ยาตัวนี้จะเข้าไปลดฮอร์โมน DHT ได้ถึง 60% ทำให้ผมงอกใหม่ได้ดีขึ้น การหลุดร่วงน้อยลง ทั้งนี้สามารถใช้กับผู้ที่ปลูกผมมาก่อนได้ เพราะจะทำให้ผมดูเยอะ และหนาขึ้นในระยะยาว

  • ผลข้างเคียงของ Finasteride

ในบรรดาผู้ใช้ยา Finasteride ในการรักษา มี 2-3% ที่อาจมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ปริมาณน้ำอสุจิลดลง เต้านมขยายใหญ่ขึ้นในผู้ชาย มีก้อน เจ็บเต้านมและอาจมีสารคัดหลั่งไหลออกมา มีค่าการทำงานของตับที่มากกว่าปกติ และอาจเกิดภาวะซึมเศร้า ซึ่งพบได้ใน 3% ของผู้ที่ใช้ยา

  • ขนาดและวิธีการใช้

– ขนาดที่แนะนำคือ 1 มิลลิกรัมต่อวัน

– ควรกินในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อให้ระดับยาในร่างกายคงที่

– มักเริ่มเห็นผลลัพธ์ในช่วง 3-6 เดือน

  • ข้อควรระวัง

– ห้ามใช้ในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งครรภ์หรือวางแผนมีบุตร เพราะอาจส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์

– ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เพราะอาจมีผลข้างเคียง เช่น ความต้องการทางเพศลดลง อารมณ์แปรปรวน หรือความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์

ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ยาฟินาสเตอร์ไรด์ หลักการทำงานและผลข้างเคียง

2. ไมนอกซิดิล (Minoxidil)

ยาปลูกผมไมนอกซิดิล ส่วนมากมักใช้เพื่อรักษาการผมร่วงจากกรรมพันธุ์ โดยยาจะเข้าไปขยายหลอดเลือด ให้เลือดไปเลี้ยงรากผมได้ดียิ่งขึ้น เป็นยาที่ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่เป็นยาเพียงชนิดเดียว ที่ใช้สำหรับรักษาผมร่วงในผู้หญิงและได้ผลดีที่สุด มีทั้งชนิดยาทาน และทาเฉพาะจุด

  • หลักการทำงานของยา Minoxidil

เดิมที ไมนอกซิดิล (Minoxidil) เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง มีกลไกการทำงานคือช่วยขยายหลอดเลือดเพื่อให้ความดันโลหิตลดลง แต่ผลข้างเคียงที่เกิดจากยาก็คือ เมื่อทานยาไประยะหนึ่งจะทำให้ผมงอกขึ้นมา สาเหตุก็เพราะเมื่อเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รากผมจึงได้รับสารอาหารมากขึ้นไปด้วย

  • ผลข้างเคียง

แบบกิน – อาจมีอาการบวมที่ใบหน้า แขน ขา เวียนหัว หัวใจเต้นเร็ว บางรายอาจมีขนขึ้นที่ใบหูได้ ซึ่งอาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน หรือแยกกันก็ได้ค่ะ

แบบทา – เนื่องจากยาแบบทานั้น จะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วย ทำให้มีอาการผิวแห้งในปริเวณที่ทา จึงอาจทำให้มีอาการคันร่วม หรือบางรายอาจแพ้ตัวยาและเกิดการระคายเคืองได้เช่นกัน

  • ขนาดและวิธีการใช้

– ไมน็อกซิดิลมีความเข้มข้นให้เลือก 1% และ 5%

– แบบทาน ทานวันละ 1 เม็ด แบบทาวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น

  • ข้อควรระวัง

– หลีกเลี่ยงการทาบริเวณที่มีแผล หรือสัมผัสกับผิวหนังส่วนอื่น

– ช่วงแรกของการใช้ยาอาจพบผมร่วงมากขึ้นก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการกระตุ้นให้เส้นผมอ่อนแอหลุดร่วง เพื่อเปิดทางให้ผมใหม่ที่แข็งแรงกว่า

ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ไมน็อกซิดิล (MINOXIDIL) ช่วยเรื่องผมร่วงจริงหรือไม่

ยาปลูกผมได้ผลจริงในคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มมีปัญหาผมร่วงหรือผมบางในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม ควรเข้าใจว่าผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการใช้งานอย่างสม่ำเสมอและระยะเวลาที่ใช้ โดยอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนถึงจะเห็นผลชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยาไม่ได้ช่วยในกรณีที่ผมร่วงจนศีรษะล้านมานานหลายปี เพราะรูขุมขนในบริเวณนั้นอาจฝ่อลงไปจนไม่สามารถสร้างเส้นผมใหม่ได้

ยาปลูกผมไม่เหมาะกับใคร
  1. ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบาง หรือหัวล้านในระดับกลางไปจนถึงรุนแรง แต่จะต้องใช้วิธีรักษาแบบอื่นแทน เช่น การปลูกผม
  2. ไม่เหมาะกับผู้ที่เซลล์ผมเสื่อมสภาพ เซลล์รากผมตาย หรือไม่มีเซลล์รากผมที่สามารถงอกใหม่ได้แล้ว เพราะการกินยาปลูกผมทั้งๆ ที่ไม่มีเซลล์รากผมนั้นนอกจากจะไม่ส่งผลในแง่ของการรักษาใดๆ ยังอาจจะเสี่ยงกับการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็นอีกด้วย
  3. ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการปลูกผม ในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์
  4. ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะยาปลูกผมส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์ได้ค่ะ

สิ่งที่น่ากลัวและอาจจะอันตรายกว่าผลข้างเคียงของยาปลูกผม นั่นคือยาปลูกผมปลอมนั่นเอง นั่นเพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ในผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อมานั้น มีตัวยาหรือสารอันตรายใดๆ เจือปนอยู่บ้าง ถึงแม้จะมีหลายแบรนด์ที่เคลมว่าปลอดภัยได้มาตรฐาน อย. แต่สมัยนี้การสวม อย. ปลอมก็มีอยู่กราดเกลื่อนทั่วไปหมด ทางที่ดีหากเราต้องการรักษาผมร่วง ผมบางจริงๆ ควรซื้อจากที่ที่ไว้ใจได้ หรือเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการวิเคราะห์อาการ และแก้ปัญหาผมของเราได้อย่างถูกจุดจะดีกว่าค่ะ

ซื้อยาปลูกผมมากินเองได้มั้ย

ยาปลูกผมสามารถซื้อมาทานเองได้ค่ะ แต่อาจไม่ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะตัวยาแต่ละชนิดมีข้อจำกัดในการใช้ และปริมาณตัวยาที่ใช้ได้ต่างกัน รวมไปถึงอาการข้างเคียง หรืออาการแพ้ไม่พึงประสงค์ของแต่ละคน ซึ่งจะสามารถคาดการณ์การรักษาได้ด้วยดุลยพินิจและความชำนาญของแพทย์ ทั้งนี้ยาปลูกผมนั้นเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางในระยะเริ่มต้นที่ยังมีเซลล์รากผมเหลืออยู่เท่านั้น และไม่เหมาะสำหรับผู้ที่หัวล้านในระยะกลางขึ้นไป ซึ่งอาจจะต้องทำการรักษาด้วยปลูกผมแทน และสตรีมีครรภ์ ที่ตัวยาอาจจะส่งผลต่อเด็กในท้อง สุดท้ายคือต้องไม่ลืมว่ายาปลูกผมปลอมนั้นมีอยู่มากกมายตามท้องตลาด ควรระวังในการเลือกซื้อให้ดี แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

รากผมอักเสบ
Prima Tossaborvorn

รากผมอักเสบ สัญญาณเตือนเรื่องปัญหาเส้นผมที่ไม่ควรมองข้าม

รากผมเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญต่อเส้นผมเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นส่วนที่ไม่ได้ถูกให้ความสำคัญมากเท่ากับเส้นผม เนื่องจากตำแหน่งของรากผมนั้นอยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนังของศีรษะ เมื่อรากผมขาดการดูแลและบำรุงอย่างถูกวิธีอาจส่งผลให้เกิดปัญหาที่เรียกว่า รากผมอักเสบ เกิดขึ้นได้ ยิ่งปล่อยให้การอักเสบเกิดขึ้นนานยิ่งมีผลให้นำไปสู่ภาวะผมบางได้ ดังนั้นวันนี้หมอเลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับอาการรากผมอักเสบ วิธีรักษา และแนวทางการป้องกันรากผมอักเสบกันค่ะ

recert
Prima Tossaborvorn

1 ใน 6 แพทย์ไทย ที่สอบผ่านต่ออายุอเมริกันบอร์ดครบ 10 ปี 

Hairsmith Clinic ยินดีอย่างยิ่งที่จะแจ้งข่าวดีให้คนไข้ทุกท่านทราบว่า คุณหมอพรีมา ทศบวร แพทย์ด้านการปลูกผมของเรา ได้สอบผ่านการต่ออายุใบรับรองจาก American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงประสบการณ์ในการให้บริการที่มีมาตรฐานระดับสากลมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 ปีเต็ม

รากผม รากผมฝ่อ
Prima Tossaborvorn

รากผม รากผมฝ่อ คืออะไร ต้นเหตุของปัญหาผมบางที่หลายคนไม่รู้

รากผม (Hair root) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเส้นผม เพราะเป็นส่วนต้นของเส้นผมที่อยู่ภายในรูขุมขนบนศีรษะ และคอยทำหน้าที่สร้างเส้นผมให้เกิดขึ้นบนศีรษะ แต่หลายคนมองว่ารากผมเป็นสิ่งที่อยู่ลงไปใต้ชั้นผิวหนังจนละเลยการให้ความสำคัญในการดูแลรักษา เพราะมองว่าเป็นจุดที่มองเห็นได้ยากกว่าเส้นผม ท้ายที่สุดเมื่อเกิดปัญหาผมขาด หลุดร่วงง่าย หรือมีภาวะผมบางเกิดขึ้น เมื่อได้รับการวินิจฉัยก็พบว่าต้นตอที่เกิดขึ้นมาจาก “รากผมไม่แข็งแรง”