เคยสงสัยกันมั้ยว่า ทำไมหลายๆ ครั้งหรือทุกครั้งที่เราย้อมสีผม ถึงมีผมร่วงติดมือออกมามากกว่าปกติ ทั้งๆ ที่เราก็บำรุงผมอย่างดีเป็นประจำ นั่นก็เพราะว่าการใช้ ยาย้อมผมผมร่วง ได้จริง แล้วการทำสีผมแล้วผมร่วงมีสาเหตุมาจากอะไร วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัย พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาผมร่วงจากการทำสีผมมาฝากกันค่ะ
ทำไมทำสีผมแล้วผมร่วง
สาเหตุที่ทำสีผมแล้วผมร่วงนั้น ส่วนมากมักไม่ได้เกิดจากตัวเม็ดสีในน้ำยาย้อมเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากสารเคมีที่ผสมมาเพื่อช่วยเสริมให้สีผมที่เราย้อมติดทนนานมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งได้แก่
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (hydrogen peroxide)
คนที่ทำสีผมบ่อยๆ น่าจะคุ้นเคยกับสารชนิดนี้เป็นอย่างดี เพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำยากัดสีผมที่ทำให้เส้นผมเดิมตามธรรมชาติของเรามีสีอ่อนลง
- แอมโมเนีย (ammonia)
แอมโมเนียเป็นตัวช่วยที่ทำให้สีผมติดทนมากขึ้น ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเป็นกลิ่นฉุนที่ค่อนข้างรุนแรง สำหรับบางยี่ห้อที่ผสมแอมโมเนียเยอะๆ ก็สามารถทำให้คนที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไปเกิดอาการแสบหนังศีรษะ แสบตา แสบจมูกได้
- พาราฟีนิลีนไดอะมีน (PPD: para-phenylenediamine)
สารเร่งการติดสีที่ทำหน้าที่ให้สีย้อมผมของเราติดบนเส้นผมได้เร็ว มักเป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและแพ้ได้
- เกลือโลหะย้อมผม (metallic hair dye)
อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของตะกั่วและอะซีเตท (Acetate) เป็นการเกิดปฏิกิริยาระหว่างตะกั่วอะซีเตทและซัลเฟอร์ในเคราตินทำให้เกิดตะกั่วซัลไฟด์เคลือบติดบนเส้นผมและทำให้เกิดสี
โดยสารเคมีที่อยู่ในน้ำยาย้อมผมส่วนใหญ่เป็นสารที่มักก่อให้เกิดอาการแพ้แตกต่างกันออกไป โดยเริ่มจากอาการระคายเคืองในส่วนที่สัมผัส เป็นผื่น บวม แดง บริเวณหนังศีรษะและกรอบหน้า ไปจนถึงอาการแพ้รุนแรงอย่างการหายใจลำบากได้เช่นกัน อีกทั้งการที่ถูกสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเข้าไปเปิดเกล็ดผมเพื่อให้สารเคมีซึมเข้าเส้นผมโดยตรง ทำให้เส้นผมขาดความแข็งแรง มีอาการแห้งกรอบ เปราะบางขาดง่ายจนผมหลุดร่วงออกไปในที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถเกิดการสะสมในร่างกายและก่อมะเร็งได้อีกด้วย หากใครวางแผนจะที่ทำสีผม ต้องอย่าลืมอ่านฉลากข้างกล่องและทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้งนะคะ
วิธีฟื้นฟูผมร่วงจากการทำสี
ถ้าใครที่ทำสีผมไปแล้วเกิดปัญหาผมร่วงหรือผมเสียแห้งกรอบก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะเราสามารถบรรเทาอาการเพื่อฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาอยู่กับเราได้นานๆ ค่ะ
ดีท็อกซ์ผมขจัดสารตกค้าง
การชำระล้างเส้นผมเพื่อขจัดสารตกค้าง หรือที่ปัจจุบันนิยมเรียกกันว่าการทำดีท็อกซ์เส้นผม โดยการทำดีท็อกซ์เส้นผมบ้างนานๆ ครั้งหรือภายหลังการทำสีถือเป็นการช่วยกำจัดสารตกค้างในเส้นผมที่การสระผมทั่วไปทำไม่ได้ และหากปล่อยเอาไว้นานเกินไปโดยไม่ทำดีท็อกซ์เสียบ้างก็อาจก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนจนทำให้ผมร่วงมากขึ้นได้
หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผม
ช่วงที่ทำสีผม จะเป็นช่วงที่เส้นผมและรากผมอ่อนแอกว่าปกติอยู่แล้ว การที่มีความร้อนเข้ามาเพิ่มจะเป็นการทำร้ายเส้นผมให้หนักขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจทำให้ปัญหาผมร่วงแย่ลงได้
บำรุงผมเป็นประจำ
การบำรุงผมถือเป็นการช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผมได้โดยตรง ไม่เพียงแค่การใช้ครีมนวดหลังสระเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การทำทรีตเม้นต์ผม การทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสร้างผมที่แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก ก็นับเป็นการบำรุงเส้นผมให้ห่างไกลผมร่วงได้ดีเช่นกัน
พักผมบ้าง
เราไม่ควรทำสีผมบ่อยจนเกินไป เพราะเส้นผมอาจทนรับสภาพที่ถูกทำร้ายไม่ไหวและเกิดการเปื่อยขาดเอาได้ง่ายๆ ทางที่ดีการเว้นระยะในการทำสีผมอยู่ที่ 3 – 5 เดือนต่อครั้งจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่สามารถช่วยยืดอายุผมสวยให้นานออกไปได้
ใช้เซรั่มที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นผม
แม้ว่าการบำรุงจากภายในจะเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดูแลเส้นผม แต่ก็อาจต้องใช้เวลานานสักหน่อยกว่าจะเริ่มเห็นผลและอาจไม่ทันใจหากเส้นผมเสียหายไปมากแล้ว การเพิ่มอาหารบำรุงที่เส้นผมโดยตรง ก็อาจเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่นำมาใช้ควบคู่กันได้ ยิ่งในสมัยนี้เซรั่มบำรุงผมที่ผลิตออกมาเพื่อช่วยเรื่องความแข็งแรงของรากผมและเส้นผมก็มีมากมายให้เลือกใช้ ก็ลองศึกษาผลิตภัณฑ์ดีๆ สักตัว แล้วเอามาช่วยเสริมทัพการดูแลเส้นผมกันนะคะ
สรุป
การทำสีผมแล้วผมร่วงนั้น เกิดจากการที่สารเคมีที่อยู่ในน้ำยาย้อมสีผมเข้าไปเปิดเกล็ดผมและทำลายความแข็งแรงจากภายใน นอกจากนี้สารเคมีต่างๆ ยังทำให้เกิดอาการแพ้จนหนังศีรษะและเส้นผมเกิดการอักเสบและหลุดร่วงได้ด้วย วิธีแก้ปัญหาผมร่วงเบื้องต้น จึงควรที่จะดีท็อกซ์เส้นผมเพื่อกำจัดสารตกค้าง การหลีกเลี่ยงความร้อน บำรุงผมเป็นประจำทั้งภายนอกและภายใน ไปจนถึงการพักผมหลังทำสี 3-5 เดือน หรือจะใช้เซรั่มที่ช่วยเรื่องความแข็งแรงของเส้นผมมาเสริม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นก็ได้ เพียงเท่านี้เส้นผมทำสีของเราก็จะอยู่กับเราไปได้นานๆ แล้วล่ะค่ะ
หากอาการผมร่วงยังไม่ดีขึ้นแนะนำให้พบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ