คำถามนี้เจอบ่อยมากทั้งทางโทรศัพท์และที่เข้ามาพบหมอที่คลินิกนะคะ คนไข้หลายคนสงสัยว่า ปลูกผมแล้วต้องกินยาไหม ถ้าปลูกผมแล้วยังต้องทานยา แล้วจะปลูกไปทำไม จริงๆ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ผมปลูก แต่อยู่ที่ผมธรรมชาติต่างหาก เพื่อให้เข้าใจง่าย มาติดตามอ่านกันค่ะ
ยาปลูกผมมีอะไรบ้าง
ฟีนาสเทอร์ไรด์ (Finasteride)
ฟีนาสเทอร์ไรด์ เป็นยากินแก้ผมร่วง ผมบาง ที่ใช้ได้ในเฉพาะผู้ชายเท่านั้น ซึ่งยาตัวนี้จะทำงานโดยการลดอัตราการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ให้เป็น DHT ที่เป็นสาเหตุของอาการผมร่วง ไม่สามารถใช้ในผู้หญิงได้ เพราะมีอันตรายเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในการใช้ยาจะเริ่มเห็นผลเมื่อใช้ 4-6 เดือนขึ้นไป แต่เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนเมื่อใช้ 1 ปีขึ้นไป
ไมนอกซิดิล (Minoxidil)
ไมนอกซิดิล มักใช้เพื่อการรักษาผมร่วงผมบาง โดยการทำงานของยายาจะเข้าไปขยายหลอดเลือด ให้เลือดไปเลี้ยงรากผมได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เส้นผมหนาขึ้น เป็นยาที่ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่เป็นยาเพียงชนิดเดียว ที่ใช้สำหรับรักษาผมร่วงในผู้หญิงและได้ผลดีที่สุด มีทั้งชนิดกิน และน้ำยาปลูกผมทาเฉพาะจุด
ปลูกผมแล้วต้องกินยาไหม
มี 2 เหตุผลหลักๆ ที่คุณหมอมักแนะนำสำหรับคนไข้ที่มีกรรมพันธุ์ผมร่วงผมบาง ให้ทานยาปลูกผมอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าจะผ่านการปลูกผมมาแล้ว ได้แก่
1. ผมที่ปลูก
ผมพวกนี้ย้ายมาจากบริเวณท้ายทอยซึ่งเป็นผมที่ไม่ร่วงอยู่แล้ว เนื่องจากไม่มี Receptor ของฮอร์โมน DHT คุณสมบัตินี้จะติดตัวมาด้วยเมื่อเรานำมาปลูก ดังนั้นต่อให้ไม่ทานยา ผมที่ปลูกก็จะขึ้นและอยู่กับเราไปตลอดเหมือนเพื่อนๆ ที่อยู่บริเวณท้ายทอยค่ะ
2. เพื่อรักษาผมธรรมชาติ (ผมเก่าในบริเวณอื่น)
ปัญหาจะอยู่ตรงนี้แหละ เพราะถ้าคนไข้มีกรรมพันธุ์ผมบาง ศีรษะล้าน มันก็มีแนวโน้มที่ผมพวกนี้จะหลุดร่วงไปตามกรรมพันธุ์ การทานยาก็จะมีบทบาทตรงนี้เพื่อไม่ให้ผมธรรมชาติมันร่วงไปจนเหลือแต่ผมปลูกค่ะ
ใครควรทานยาหลังปลูกผมบ้าง
หน้าที่นี้ปล่อยให้หมอจัดการค่ะ ต้องบอกก่อนว่ายาไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกคน บางคนก็ควรทาน บางคนก็ไม่จำเป็น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่ต้องพิจารณาว่าคนไข้นั้นๆ ยังมีแนวโน้มที่จะเจอปัญหาธรรมชาติผมบางต่อไปหรือไม่ ซึ่งหมอก็ต้องดูทั้งอายุ ระดับความบางของผม ประวัติกรรมพันธุ์ในครอบครัว ฯลฯ
หลังปลูกผมไม่ทานยาปลูกผมได้หรือไม่
ไม่ทานยาได้มั้ย … ไม่ทานก็ได้ค่ะ ไม่ได้บังคับ แต่ก็ต้องยอมรับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกันว่าหาคนไข้มีแนวโน้มที่จะเจอปัญหาผมธรรมชาติบางไปเรื่อยๆ ผมธรรมชาติก็อาจจะร่วงไปจนเหลือแต่ผมที่ปลูก ในอนาคตก็อาจต้องกลับมาปลูกใหม่ในบริเวณที่ผมธรรมชาติหายไปนั่นเอง
กินยาปลูกผมตลอดชีวิตได้มั้ย
หากทานยาปลูกผมติดต่อกันเป็นเวลานานหลายปี จะมีผลข้างเคียงอะไรกับร่างกายหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องที่คนไข้หลายคนกังวลว่าสมรรถภาพทางเพศจะลดลง จริงๆ แล้วเกิดขึ้นได้เพียง 2% เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมากๆ แล้วจะส่งผลต่อตับรึเปล่า ก็นิดหน่อยค่ะ อยู่ในระดับที่ไม่อันตราย ยาปลูกผมจะไม่สะสมในตับ ร่างกายจะขับทิ้งไปเองอยู่แล้ว ถ้าคนไข้มีโอกาสไปตรวจร่างกายประจำปีแล้วพบว่าค่าการทำงานของตับอยู่ในระดับปกติก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ สามารถทานยาต่อเนื่องได้เลย
ที่ Hairsmith Clinic หมอแถมยาทานหลังปลูกผมให้ตลอด 1 ปีเต็มไม่ต้องจ่ายเพิ่มคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเสียอีกเรียกว่าดูแลกันไปตลอดจนกว่าผมจะขึ้นเต็มที่เลยค่ะ
สรุป
ปลูกผมแล้วต้องกินยาไหม มีเหตุผลหลักๆ คือเพื่อป้องกันผมธรมชาติที่ไม่ได้ปลูกผมไม่ให้ร่วงไปตามกรรมพันธุ์ ซึ่งยาปลูกผมสามารถทานต่อเนื่องได้ยาวๆ ยาปลูกผมจะไม่สะสมในตับ ร่างกายจะขับทิ้งไปเอง