การศัลยกรรม การเติมนู่น ฉีดนี่เกี่ยวกับเรื่องความสวยความงาม ยังไงมันก็เลี่ยงกันไม่ค่อยได้ใช่มั้ยคะ เพราะนอกจากจะช่วยเสริมบุคลิกภาพ และสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับตัวเองในหลายๆ เรื่องอีกด้วย ทีนี้เมื่อผมก็ต้องเป๊ะ หน้าก็ต้องปัง จะดูดีทั้งทีก็เอาให้ครบจบไปเลยแบบนี้ จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า แล้วถ้าเราอยากจะเติมฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อก แต่ก็อยากปลูกผมด้วย จะสามารถทำทั้งสองสามอย่างนี้ไปด้วยกันได้มั้ยนะ มาดูกันค่ะ
ฟิลเลอร์ (FILLER) คืออะไร
ก่อนจะฉีดอะไรเข้าหน้า เราก้ต้องมาทำความรู้จักกันก่อนใช่มั้ยคะ เริ่มกันที่ลูกรักของคนมีริ้วรอยร่องลึกอย่างเจ้า ฟิลเลอร์ (Filler) หรือสาร Hyaluronic Acid เป็นสารประกอบของคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วในผิวหนังอยู่แล้ว ซึ่งคอลลาเจนก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่คล้ายสปริงให้กับผิว สร้างความตึงให้กับชั้นหนังแท้ แต่เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น คอลลาเจนจะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา เปรียบกับสปริงที่เคยแข็งแรงหย่อนคล้อย ผิวหนังจึงเกิดการยุบตัวและเกิดริ้วรอยขึ้นนั่นเอง การฉีดฟิลเลอร์ จึงเป็นเหมือนการเติมสปริงให้กับชั้นผิว ให้ผิวที่มีริ้วรอยร่องลึกดูเต็มขึ้น เต่งตึงขึ้น และดูเด็กขึ้นค่ะ
ข้อดี
- ช่วยชะลอวัยทันที ไม่ต้องพักฟื้น
- ไม่มีความเสี่ยงต่อการวางยาสลบ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องใช้
- สามารถฉีดเติมเข้าไปใหม่ หรือฉีดสลายออกได้อย่างปลอดภัย
- เห็นผลในครั้งแรกทันที
ข้อเสีย
- ไม่สามารถอยู่ได้คงทนถาวร ต้องเติมเรื่อยๆ
- ต้องหลีกเลี่ยงการจับ คลึง คลำ ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มา เนื่องจากฟิลเลอร์อาจเปลี่ยนรูปทรงได้
ฉีดฟิลเลอร์แล้วปลูกผมได้มั้ย
หากเรามีการฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว แต่อยากปลูกผมเพื่อเสริมความมั่นใจด้วย สามารถทำได้ค่ะ แต่อาจจะมีข้อควรระวังเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการกำหนดแนวผมหากคนไข้มีการเติมฟิลเลอร์ที่บริเวณหน้าผากมา ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญ และประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากแพทย์ประเมินแนวผมต่ำจนเกินไปจนเจอฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลออกมาจากรูแผลที่ปลูกผมไว้ ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้ในภายหลัง
โบท็อก (BOTOX) คืออะไร
รู้หรือไม่ว่าคำว่า “โบท็อก” นั้น เป็นชื่อเครื่องหมายการค้าของสาร Botulinum toxin A แบรนด์ดังจากอเมริกา คล้ายๆ กับการที่คนไทยติดเรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปว่ามาม่านั่นแหละค่ะ โดยเจ้าตัว Botulinum toxin A นั้นเป็นโปรตีนที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรีย “Clostridium botulinum” ซึ่งถ้าหากเราได้โปรตีนตัวนี้มากเกินไป ก็จะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ แต่ถ้าเราเอามาใช้ในปริมาณที่พอเหมาะพอดี ก็จะเป็นผลดีต่อการรักษาโรคต่างๆ เช่น ตาเข ตาเหล่ รวมไปถึงในเรื่องของการเสริมความงามในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับ และการลดขนาดน่อง กรามได้อีกด้วยค่ะ
ข้อดี
- ไม่ต้องผ่าตัด ใช้ระยะเวลาในการฉีดน้อย และไม่ต้องพักฟื้น
- ปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย และมีผลการวิจัยมากมายรองรับ
ข้อเสีย
- ไม่สามารถอยู่ได้คงทนถาวร หากหมดฤทธิ์แล้วต้องไปฉีดเติม
- อาจแสดงสีหน้าได้ไม่เป็นธรรมชาติ หากฉีดในปริมาณที่เยอะเกินไป
- ในบางรายพบว่าการเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพน้อยลง ทำให้เคี้ยวอาหารที่เหนียวและแข็งได้ยากขึ้น
- การขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด มีความหนืดมากขึ้น
- หากเจอแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจะทำให้โบท็อกไหลเข้าไปในจุดที่ไม่พึงประสงค์ได้ ก่อให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา เช่น กล้ามเนื้อตาตก ปากเบี้ยว เป็นต้น
ฉีดโบท็อกแล้วปลูกผมได้มั้ย
แน่นอนว่าสามารปลูกได้ค่ะ นั่นก็เพราะว่าโบท็อกนั้นมีผลออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อเท่านั้น ไม่มีผลต่อการปลูกผม หรือการเจริญเติบโตของเส้นผมแต่อย่างใด แต่ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดโบท็อกที่ใด ต้องแน่ใจก่อนทุกครั้งว่าเป็นโบท็อกแท้ที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่โบท็อกที่เคลมว่าเป็นสูตรถาวรอยู่ได้ 5 ปี 10 ปี เพราะการันตีได้เลยว่าอันตราย และให้ผลร้ายมากกว่าดีแน่นอน
สรุป
สรุปได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกนั้น เมื่อฉีดแล้วจะยังสามารถปลูกผมได้ตามปกติ เพียงแต่อาจต้องมีข้อระวังในการกำหนดแนวผม ที่ไม่ควรต่ำเกินไปจนเข้ามาเจอกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ไหลออกจากแผลปลูกผม เกิดเป็นการติดเชื้อและอักเสบได้นั่นเอง ที่สำคัญต้องไม่ลืมตรวจสอบคลินิกที่เข้ารับบริการให้ดี อย่าเห็นแก่ของไม่ได้มาตรฐานราคาถูก เพราะการผ่าตัดเอาโบท็อก ฟิลเลอร์ปลอมออกนั้น นอกจากจะมีราคาที่สูงลิบลิ่วแล้ว ยังสร้างความเจ็บปวดให้คนไข้อย่างมากมายนับไม่ได้เลยล่ะค่ะ