เมื่อพูดถึงการปลูกผม หลายคนอาจจะนึกถึงตุรกีเป็นอันดับแรก ตุรกีถือเป็นศูนย์กลางของการปลูกผมที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยราคาที่ไม่แพงและจำนวนคลินิกที่มีมากมาย อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะปลูกผมตุรกีหรือไม่นั้นยังมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา
ปลูกผมตุรกีเป็นอย่างไร
ถือว่าเป็นบทความที่น่าสนใจเลยทีเดียว (https://qz.com/954680/in-turkeys-cutthroat-hair-transplant-tourism-industry-the-biggest-losers-are-the-patients-and-syrian-refugees/) กับอุตสาหกรรมปลูกผมในตุรกี ถ้าให้สรุปสั้นๆ ก็คือการแข่งขันสูงมากจนทุกคลินิกพยายามลดต้นทุนด้วยการจ้างแรงงานต่างด้าวมาปลูกผม แล้วลดราคาแข่งกัน โดยหมอแทบไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากให้คำปรึกษา ที่เหลือให้ลูกจ้างทำหมด ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นคือผลลัพธ์ คุณภาพ ความสะอาด การติดเชื้อ ฯลฯ
แม้กฎหมายของตุรกีจะกำหนดให้แพทย์เป็นผู้ดำเนินการผ่าตัด แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเพราะคลินิกต่างๆ เลือกที่จะ “ติดสินบน” เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดี
ปลูกผมที่ตุรกีดีไหม
หากคุณกำลังพิจารณาปลูกผมที่ตุรกี สิ่งสำคัญคือต้องค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกและแพทย์ให้ละเอียด อ่านรีวิวและสอบถามจากผู้ที่เคยใช้บริการมาก่อน แต่หากคนไข้ม่อยากเสี่ยงและควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัย การสื่อสาร และการติดตามผลการรักษา การปลูกผมในประเทศไทยอาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าค่ะ
็็Haismith Clinic แสดงจุดยืนตรงข้ามกับสิ่งเหล่านี้มาตลอด โดยหวังอย่างยิ่งว่าปัญหานี้จะไม่เกิดกับวงการปลูกผมในไทย เพราะเราเห็นด้วยกับบทความนี้ว่า ในท้ายที่สุดแล้ว “ผู้แพ้จากปัญหาดังกล่าวก็คือตัวคนไข้นั่นเอง”