fbpx

วิธีปลูกผมมีกี่แบบกันนะ

/
/
วิธีปลูกผมมีกี่แบบกันนะ
วิธีปลูกผมมีกี่แบบกันนะ_1.

วิธีปลูกผมมีกี่แบบ

วันนี้หมอจะมาช่วยไขข้อข้องใจให้ค่ะว่าที่เราเห็นโฆษณาวิธีปลูกผมหลากหลายรูปแบบตามอินเตอร์เน็ตเนี่ย จริงๆ แล้วมีวิธีปลูกผมกี่แบบกันแน่

วิธีปลูกผมที่บัญญัติโดยสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) มีเพียงแค่ 2 แบบเท่านั้นค่ะ

แบบแรก คือ FUT หรือที่ย่อมาจากคำว่า FOLLICULAR UNIT TRANSPLANTATION

วิธีปลูกผมมีกี่แบบกันนะ 2

หรือ หลายคนเรียกวิธีนี้ว่า Strip Technique ค่ะ วิธีปลูกผมแบบ FUT นี้เป็นเทคนิคปลูกผมในยุคแรก โดยเทคนิคปลูกผมนี้จะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก โดยแพทย์จะผ่าเอาหนังศีรษะออกมาเป็นเส้นยาวทั้งชิ้นด้านหลังศีรษะ จากนั้นจะเย็บแผลประกบกัน แล้วจึงนำผมที่ได้มาแบ่งเป็นกราฟท์หรือกอผมใต้กล้องจุลทรรศน์ ส่วนเจ้ากอผมที่ได้มาก็จะถูกนำไปปลูกบริเวณที่ต้องการค่ะ ซึ่งเทคนิค FUT นี้ต้องใช้เวลากว่า 1-2 สัปดาห์เพื่อให้แผลผ่าตัดด้านหลังปิดสนิทและหายดี โดยเมื่อครบ 7 วัน คนไข้ต้องไปทำการตัดไหมที่ด้านหลังค่ะ เมื่อแผลหายดีแล้วด้านหลังศีรษะของคนไข้จะมีรอยแผลเป็นเส้นยาวประมาณ 20-30 ซม. ดังนั้นคนไข้ควรไว้ผมยาวเพื่อปกปิดร้อยแผลเป็นค่ะ

แบบสุดท้าย คือ FUE ที่เดิมทีย่อมาจาก FOLLICULAR UNIT EXTRACTION

วิธีปลูกผมมีกี่แบบกันนะ 3

แต่เมื่อคำว่า Extraction ไม่ได้สื่อถึงความหมายที่แท้จริง เนื่องจากยังมีหลายคนเข้าใจผิดจากการโฆษณาแบบผิดๆ ว่าการปลูกผมแบบ FUE ไม่ใช่การผ่าตัดและไม่มีแผลเป็น ซึ่งไม่เป็นความจริง หมอเคยอธิบายไปแล้วว่าการปลูกผมไม่ว่าจะเป็นด้วยเทคนิค FUT หรือ FUE ต่างก็เป็นการผ่าตัดทั้ง 2 แบบ ถึงแม้ว่า FUE จะไม่ต้องมีการเย็บแผล แต่ก็ยังมีแผลเป็นเล็กๆ ที่ทิ้งไว้ด้านหลังศีรษะอยู่ดี ไม่ใช่ไม่มีเลย

เมื่อมีเรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้นคณะกรรมการของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) จึงมีมติให้เปลี่ยนคำของตัว E สุดท้ายจาก Extraction เป็น Excision แทน ซึ่งคำว่า Excision นี้มาจากคำว่า Incision (การผ่าหรือตัด) รวมกับ Extraction (การดึง) เพื่อให้ได้ความหมายที่ถูกต้องชัดเจนที่สุดค่ะ ดังนั้นตอนนี้คำย่อของ FUE คือ Follicular Unit Excision แทนแล้วนะคะ

วิธีปลูกผมมีกี่แบบกันนะ 4

ส่วนวิธีปลูกผมแบบ FUE เป็นเทคนิคที่ใหม่กว่า โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือที่เหมือนหลอดขนาดเล็กวางคร่อมกอผม และทำการเจาะกอผมออกมาทีละกอจากบริเวณด้านหลังศีรษะค่ะ  กอผมที่เจาะออกมาจะถูกคัดแยกและจัดกลุ่มให้เหมาะสมเพื่อนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งเทคนิคแบบ FUE จะได้รับความนิยมมากกว่า FUT เพราะเจ็บน้อยกว่า และแผลด้านหลังหายเร็วกว่าแบบ FUT ค่ะ

ซึ่งการปลูกผมทั้ง FUT และ FUE จะเห็นได้ว่าความแตกต่างมีเพียงแค่วิธีการนำผมออกมาปลูกจากด้านหลังศีรษะเท่านั้นเอง และสมาคมปลูกผมนานาชาติยังเปิดกว้างเรื่องวิธีการนำผมปลูกกลับไปอีกด้วย  ผลลัพธ์ของการปลูกผมของทั้ง 2 วิธีนี้จึงไม่แตกต่างกัน ผมที่ปลูกไปจะงอกเต็มที่ในเดือนที่ 12-18 ดังนั้นเวลาดูผลลัพธ์ตามที่ต่างๆ หมอแนะนำให้พิจารณาผลลัพธ์จากรูปหลังปลูกผมไปแล้ว 6-12 เดือนมากกว่านะคะ

วิธีปลูกผมมีกี่แบบกันนะ 5

ที่ Hairsmith Clinic ไม่ว่าจะปลูกผมด้วยวิธีไหนเราก็ใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Implanter pen ในการนำรากผมปลูกกลับเข้าไปในหนังศีรษะ  ข้อดีของเจ้า Implanter pen คือช่วยลดความเสียหายของรากผม หรือลด trauma ของกราฟท์ผมนั่นเองค่ะ หวังว่าคนไข้ของหมอจะเข้าใจถึงวิธีการปลูกผมมากขึ้นนะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถคอมเมนต์มาไว้ได้เลยนะคะ ถ้าหมอออกจากห้องผ่าตัดแล้วจะแวะเข้ามาตอบให้นะคะ (ฮา)

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

รากผมอักเสบ
Prima Tossaborvorn

รากผมอักเสบ สัญญาณเตือนเรื่องปัญหาเส้นผมที่ไม่ควรมองข้าม

รากผมเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญต่อเส้นผมเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นส่วนที่ไม่ได้ถูกให้ความสำคัญมากเท่ากับเส้นผม เนื่องจากตำแหน่งของรากผมนั้นอยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนังของศีรษะ เมื่อรากผมขาดการดูแลและบำรุงอย่างถูกวิธีอาจส่งผลให้เกิดปัญหาที่เรียกว่า รากผมอักเสบ เกิดขึ้นได้ ยิ่งปล่อยให้การอักเสบเกิดขึ้นนานยิ่งมีผลให้นำไปสู่ภาวะผมบางได้ ดังนั้นวันนี้หมอเลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับอาการรากผมอักเสบ วิธีรักษา และแนวทางการป้องกันรากผมอักเสบกันค่ะ

recert
Prima Tossaborvorn

1 ใน 6 แพทย์ไทย ที่สอบผ่านต่ออายุอเมริกันบอร์ดครบ 10 ปี 

Hairsmith Clinic ยินดีอย่างยิ่งที่จะแจ้งข่าวดีให้คนไข้ทุกท่านทราบว่า คุณหมอพรีมา ทศบวร แพทย์ด้านการปลูกผมของเรา ได้สอบผ่านการต่ออายุใบรับรองจาก American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงประสบการณ์ในการให้บริการที่มีมาตรฐานระดับสากลมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 ปีเต็ม

รากผม รากผมฝ่อ
Prima Tossaborvorn

รากผม รากผมฝ่อ คืออะไร ต้นเหตุของปัญหาผมบางที่หลายคนไม่รู้

รากผม (Hair root) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเส้นผม เพราะเป็นส่วนต้นของเส้นผมที่อยู่ภายในรูขุมขนบนศีรษะ และคอยทำหน้าที่สร้างเส้นผมให้เกิดขึ้นบนศีรษะ แต่หลายคนมองว่ารากผมเป็นสิ่งที่อยู่ลงไปใต้ชั้นผิวหนังจนละเลยการให้ความสำคัญในการดูแลรักษา เพราะมองว่าเป็นจุดที่มองเห็นได้ยากกว่าเส้นผม ท้ายที่สุดเมื่อเกิดปัญหาผมขาด หลุดร่วงง่าย หรือมีภาวะผมบางเกิดขึ้น เมื่อได้รับการวินิจฉัยก็พบว่าต้นตอที่เกิดขึ้นมาจาก “รากผมไม่แข็งแรง”