แสงเลเซอร์ LLLT และ LED ต่างกันอย่างไร

LLLT VS LED แบบไหนช่วยรักษาผมร่วง

ช่วงนี้เริ่มเห็นเพื่อนๆ ตามสื่อโซเชียลหลายคนที่บ่นว่าผมร่วงบ้าง หัวเริ่มล้านบ้าง มีการหาซื้อหมวกปลูกผมมาใช้กันแล้ว ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เคยมีคนถามหมอเรื่องความแตกต่างระหว่างหมวกหลายๆ แบรนด์อยู่บ้าง ว่ามีข้อแตกต่างกันยังไง? แถมยังมีทั้งรุ่น LLLT และรุ่น LED ให้เลือกมากมาย แล้วเจ้าหมวกปลูกผมที่เพียงแค่ใส่วันละไม่กี่นาทีจะได้ผลจริงมั้ย? แล้วจะช่วยเรื่องผมร่วงด้วยมั้ย? วันนี้หมอจะมาอธิบายให้ฟังค่ะ

เลเซอร์ LLLT คืออะไร

เลเซอร์ LLLT หรือชื่อเต็มว่า Low Level Laser Therapy เป็นเลเซอร์คลื่นความถี่ต่ำ ที่มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 650-680 nm. เป็นแสงสีแดงและสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเมื่อเลเซอร์ที่เป็นคลื่นความถี่ต่ำถูกฉายลงบนศีรษะของเราแล้ว ก็จะเกิดการดูดซับพลังงาน และกระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น

ช่วยให้เซลล์รากผม การหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น ส่งผลให้มีสารอาหารเข้ามาหล่อเลี้ยงเส้นผมมากขึ้น ทำให้ผมใหม่งอกได้ดีขึ้น ผมร่วงน้อยลง ผมดูดก และหนาขึ้นนั่นเอง

นอกจากเรื่องเส้นผมแล้ว แสงเลเซอร์ LLLT ยังช่วยเรื่องการกระตุ้นการสมานแผลบนศีรษะ ช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ บนหนังศีรษะ ซึ่งเหมาะมากๆ กับคนไข้ที่เพิ่งปลูกผมมา เพราะจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ช่วยให้แผลหายเร็ว และทำให้ผมงอกใหม่แข็งแรงมากขึ้น และเสี่ยงที่จะร่วงลดลงค่ะ

แสง LED คืออะไร

ย่อมาจาก Light-Emitting Diode หรือก็คือไดโอดเปล่งแสงธรรมดาๆ นี่แหละค่ะ ซึ่งหลักการทำงานของ LED นั้น ก็คือการให้แสงสว่าง โดยแสงที่ได้ออกมานั้นจะเป็นแสงที่ไม่มีความร้อน หรือมีความร้อนที่น้อยมากๆ จนใช้มือเปล่าจับได้เลย และแม้ว่าในความจริง LED จะมีการคลื่นออกมา แต่คลื่นที่ได้นั้นก็ไม่สามารถเข้าไปกระตุ้นรากผมได้จริงนั่นเอง

ข้อแตกต่างระหว่าง LLLT กับ LED

ความแตกต่างระหว่างเลเซอร์ LLLT และ LED แบบอธิบายชัดๆ นั่นก็คือ ใช้ได้จริงกับใช้ไม่ได้จริงค่ะ (ฮา) อย่างหัวข้อข้างต้นก็จะพอทราบกันอยู่แล้ว ว่าเลเซอร์ LLLT จะปล่อยคลื่นความถี่ต่ำและต่อเนื่อง เพื่อเข้าไปกระตุ้นรากผม กลับกัน แม้ว่า LED จะมีคลื่นความถี่คล้ายกัน แต่เป็นคลื่นความถี่ที่ปล่อยมาเป็นช่วงๆ ไม่ต่อเนื่อง และไม่มีผลในการช่วยกระตุ้นรากผมแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ LED นั้นมี แล้ว LLLT ทำตามไม่ได้ก็คือราคาที่ถูกแสนถูกกว่าหลายเท่าค่ะ

ข้อดีของการทำ LLLT

1. ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง
2. ช่วยทำให้เซลล์รากผมทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ผมใหม่ที่เกิดมามีคุณภาพที่ดีขึ้น
3. ช่วยให้เส้นผมหนาขึ้น ดูดกดำ
4. ช่วยลดผมขาดหลุดร่วง
5. ช่วยลดการอักแสบของหนังศีรษะ
6. ช่วยสมานแผลบนหนังศีรษะ เหมาะกับผู้ที่เพิ่งปลูกผมมาใหม่ๆ

LLLT มีข้อจำกัดยังไงบ้าง

1. ไม่เหมาะกับผู้ที่หัวล้าน หรือไม่มีรากผมหลงเหลืออยู่แล้ว
2. แม้ว่าเลเซอร์ LLLT นั้นจะสามารถทำได้บ่อยๆ แต่อาจเกิดอาการศีรษะแห้งได้ หากใช้บ่อยเกินไป
3. การรักษาด้วยวิธีนี้ จะให้ผลลัพธ์ที่ช้ากว่าวิธีแบบอื่น ซึ่งต้องอาศัยวินัย ความอดทน และความสม่ำเสมอของคนไข้เป็นหลัก

สรุป

เลเซอร์ LLLT นั้น มีหลักการทำงานที่จะปล่อยคลื่นความถี่ต่ำและต่อเนื่อง เข้าไปกระตุ้นการทำงานของรากผม เพื่อให้รากผมทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เส้นผมที่เกิดออกมาใหม่ มีคุณภาพที่ดี ดูดกหนา ทั้งยังช่วยสมานแผลบนหนังศีรษะ และช่วยลดผมร่วงได้ดี ในส่วนของ LED นั้น เป็นเพียงไดโอดเปล่งแสง ที่ทำหน้าที่ให้แสงสว่างเพียงเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนช่วยในการกระตุ้นรากผมแต่อย่างใด ทั้งนี้ เลเซอร์ LLLT นั้นปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง แต่เห็นผลช้ากว่าวิธีการปลูกผมแบบอื่น และไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีรากผมเหลืออยู่แล้วค่ะ