ก่อนอื่นคนไข้ต้องเข้าใจก่อนว่าคนเราเนี่ยไม่สามารถปลูกผมซ้ำแล้วซ้ำอีกได้เรื่อยๆ เนื่องจากการปลูกผมไม่ใช่การเพิ่มจำนวนเส้นผม แต่เป็นการย้ายผมถาวรจากด้านหลังศีรษะไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ นั่นหมายความว่าผมถาวรของคนไข้นั้นมีอยู่อย่าง “จำกัด”
ไอ้การปลูกผมด้วยเทคนิค FUT เนี่ยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ที่จะมีปัญหาคือเทคนิค FUE เสียมากกว่า เพราะบริเวณผมถาวร (Donor Area) มันมีจำกัด ถ้าเจาะเอาผมออกมามากเกินไป (Over-harvesting) ก็จะทำให้ผมบริเวณนั้นบางลง
ตัวอย่างภาพจาก ISHRS
ยิ่งถ้าคนทำหน้าที่เจาะ (Graft Excision) ไม่มีประสบการณ์ กระจายการเจาะได้ไม่ดี (Poor Distribution) ก็ยิ่งทำให้ผมบางเป็นหย่อมๆ ได้เลยนะ ไม่เชื่อลองดูภาพประกอบ ซึ่งปัญหานี้ถ้าเกิดแล้วมันแก้ยากมากค่ะ ไม่อย่างนั้นก็ต้องไว้ผมยาวปิด หรือสักอณูสีช่วยแทน
ด้วยเหตุนี้ หมอมักแนะนำเทคนิค FUE ให้กับคนไข้ที่ปลูกผมไม่เกิน 3,000 กราฟท์ เพราะถ้ามากกว่านี้ก็อาจทำให้ด้านหลังศีรษะของคนไข้บางเกินไป คนไข้สามารถคลิกดูตัวอย่างที่กระจายการเจาะได้ไม่ดี (Poor Distribution) จากกระทู้ของ RealSelf ตามลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ
ประเด็นที่หมอยกขึ้นมาเล่าให้ฟังวันนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าประสบการณ์และความรู้ของแพทย์นั้นสำคัญมาก ศัลยกรรมปลูกผมมันไม่ได้มีแค่เรื่องทำให้ขึ้นหรือไม่ขึ้น แต่ยังรวมถึงรายละเอียดในมิติอื่นอีกด้วย คนไข้คงไม่อยากมีผมขึ้นด้านหน้า แต่ด้านหลังศีรษะแหว่งแบบในกระทู้ใช่มั้ยคะ