ช่วงนี้มีคลินิกปลูกผมผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ใครๆ ก็บอกว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ แล้วจะเลือกปลูกผมที่ไหนดี วันนี้หมอมีเคล็ดลับในการเลือกว่าจะปลูกผมที่ไหนมาฝาก โดยพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
วิธีเลือก ปลูกผมที่ไหนดี ทำอย่างไร
การตัดสินใจปลูกผมเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้การตัดสินใจอย่างรอบคอบนะคะ เพราะไม่ใช่แค่เป็นการลงทุนในรูปลักษณ์และความมั่นใจของเรา แต่ต้องคำนึงถึงความเชี่ยวชาญและมาตรฐานของคลินิกที่เราจะเลือกด้วย ซึ่งการเลือกคลินิกที่เหมาะสมและน่าเชื่อถือมีวิธีการเลือก ดังนี้
1. ดูที่ผลลัพธ์
นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกว่าปลูกผมที่ไหนดี ผลลัพธ์ที่ว่านี่ไม่ใช่ผลลัพธ์หลังปลูกผม “ทันที” หรือหลังปลูกผม “2 อาทิตย์” แต่เป็นหลังปลูกผมไปแล้ว 6 เดือนขึ้นไป ยิ่งเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เหตุผลที่หมอย้ำเรื่องนี้บ่อยๆ ก็เพราะว่าผลลัพธ์หลังปลูกผมในช่วง 2 สัปดาห์แรกมันไม่ได้การันตีว่า “ผมจะขึ้น” ภาพหลังทำช่วงนี้อาจให้เราได้เห็นว่าปลูกผมแน่นขนาดไหน แต่ความแน่นก็ไม่ได้การันตีว่าผมจะขึ้นเช่นกัน
นอกจากเรื่องผมขึ้นแล้ว เราควรพิจารณาความเป็นธรรมชาติของผมที่ปลูกด้วย ลองดูว่าทิศทางผมดูเป็นธรรมชาติมั้ย แนวผมด้านหน้า (Hairline) ดูแข็งเกินไปหรือเปล่า เรื่องนี้ก็สำคัญเพราะหลังปลูกผมไปแล้ว คนไข้คงไม่อยากโดนคนอื่นทักว่าสวมวิกมาหรอกจริงมั้ยคะ
2. ประสบการณ์ของแพทย์
อันนี้จริงแล้ว ข้อนี้จะสอดคล้องกับข้อที่ 1 เพราะผลลัพธ์ที่ดีย่อมต้องเกิดจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ แต่ถ้าคนไข้ดูผลลัพธ์แล้วแยกไม่ออกว่าแบบไหนดีไม่ดี ประสบการณ์ของแพทย์ก็จะช่วยกรองให้ได้ระดับหนึ่ง คำว่าประสบการณ์ที่ว่านี้หมายถึง “ประสบการณ์ด้านศัลยกรรมปลูกผม” นะคะ ที่ต้องย้ำแบบนี้เพราะบางคนบอกว่ามีประสบการณ์กว่า 10 ปี แต่พอตรวจสอบดีๆ กลับพบว่าเพิ่งอบรมหัดปลูกผมไม่กี่วันเท่านั้น ส่วน 10 ปีที่ว่าคือนับตั้งแต่เรียนจบแพทย์ แบบนี้ก็ถือว่าให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน แต่ก็แน่ล่ะ ใครจะไปโฆษณาตัวเองว่าไม่มีประสบการณ์จริงมั้ย?
ถ้านึกไม่ออกว่าจะเริ่มต้นยังไงดี การเลือกแพทย์ที่มีอเมริกันบอร์ดศัลยกรรมปลูกผม (ABHRS) ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะนี่คือบอร์ดเดียวในโลกที่รับรองประสบการณ์และทักษะด้านศัลยกรรมปลูกผมค่ะ
3. รีวิวจากคนไข้จริง
คำบอกเล่าจากคนไข้จริงๆ ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะตัดสินใจปลูกผมที่ไหนดี แต่จะเป็นประโยชน์ในแง่ของประสบการณ์ที่จะได้รับจากคลินิกเสียมากกว่า เพราะถ้าเป็นรีวิวหลังทำทันที มันก็ไม่ได้บ่งบอกว่าผลลัพธ์จะดี ด้วยเหตุผลที่หมออธิบายไปแล้วในข้อแรก ถ้าเป็นไปได้ การได้พูดคุยหรือพบคนไข้ของคลินิกที่คนไข้สนใจแบบตัวเป็นๆ เลยจะมีประโยชน์ที่สุด เพราะเราจะได้เห็นผลลัพธ์ด้วยตาตัวเอง
วีดิโอรีวิวปลูกผม 12 เดือน
4. ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล
เดี๋ยวนี้มีทั้งปลูกผมราคาถูกแบบคิดราคาเป็นกราฟท์ ไล่ตั้งแต่ 30 – 160 บาท แตกต่างกันไปตามประสบการณ์ ผลงาน ตลอดจนเครื่องมือ อุปกรณ์ และข้อเสนออื่นๆ ของแต่ละคลินิก หมอแนะนำอย่างนี้ว่าอย่าดูแต่แบบคิดราคาต่อกราฟท์ แต่ควรดูว่าสุดท้ายคนไข้ต้องจ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ และจะได้อะไรบ้าง เพราะบางคลินิกกำหนดปลูกผมราคาต่อกราฟท์ไม่แพงก็จริง แต่ใช้เทคนิคประเมินจำนวนกราฟท์เกินไปเยอะๆ สุดท้ายก็ต้องจ่ายแพงอยู่ดี บางคลินิกอาจมีค่าใช้จ่ายแอบแฝง เช่น ค่าห้องผ่าตัด ค่าอุปกรณ์สิ้นเปลือง ค่ายา เป็นต้น กลายเป็นต้องจ่ายเพิ่มอีกหลายหมื่นก็มี ในทางกลับกัน บางคลินิกที่คนไข้อาจรู้สึกว่าปลูกผมราคาต่อกราฟท์แพง แต่ทางคลินิกเตรียมพร้อมให้ทุกอย่างและไม่คิดค่าใช้จ่ายยิบย่อยแล้ว สุดท้ายก็อาจกลายเป็นราคาไม่แพงก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้คนไข้ควรสอบถามให้ชัดเจนว่าทางคลินิกจะจัดเตรียมอะไรให้บ้าง มีการรับประกันผลลัพธ์ให้มั้ย มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ที่ต้องเน้นแบบนี้เพราะหมอเห็นมาเยอะแล้วจากคนไข้ที่มาขอให้แก้งานจากคลินิกอื่น ซึ่งรับปากว่ารับประกัน แต่พอผมขึ้นไม่ดีก็ตุกติกเล่นแง่ให้คนไข้จ่ายเงินเพิ่มอยู่ดี
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปลูกผมราคาเท่าไหร่ อัพเดตราคาปลูกผมล่าสุด
ถึงแม้ว่าช่วงนี้ทางสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) จะรณรงค์เรื่อง “ตลาดมืด” หรือคลินิกเถื่อนที่ใช้พนักงานปลูกผมกันเองอย่างต่อเนื่อง บ้านเราก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหาแบบนั้นเหมือนกัน แต่หมออยากบอกว่าจริงๆ แล้วเมืองไทยมีหมอปลูกผมเก่งๆ หลายท่านเลยทีเดียว บางท่านก็โด่งดังในชาวต่างชาติด้วย ขอเป็นกำลังใจให้คนไข้เจอคุณหมอปลูกผมที่ใช่และได้รับผลลัพธ์ตามที่ต้องการนะคะ
5. สถานที่ตั้งและการเดินทาง
เพราะการปลูกผมใช้เวลาเกือบทั้งวัน สถานที่ตั้งคลินิกปลูกผมจึงควรมีที่จอดรถอย่างเพียงพอไว้บริการคนไข้ และอยู่ในจุดที่ขนส่งสาธารณะเข้าถึงได้ อย่างที่ Hairsmith Clinic ตั้งอยู่ใจกลางอโศกใกล้เส้นทางของรถไฟฟ้าทั้ง BTS สถานีอโศก และ MRT สถานีเพชรบุรี อีกทั้งยังมีรถเมล์หลายสายวิ่งผ่าน ทำให้คนไข้เดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและขนส่งสาธารณะ
6. การรับประกันผลลัพธ์หลังปลูกผม
การรับประกันผลลัพธ์ถือเป็นอีกหนึ่งบริการที่สำคัญของคลินิกปลูกผม อย่างที่หมอเคยบอกว่าไม่มีอะไรเพอร์เฟคร้อยเปอร์เซ็นต์ การปลูกผมก็เช่นกัน ซึ่งอาจมีโอกาสที่ผมที่ปลูกขึ้นได้ไม่ดีเท่าที่ควร การรับประกันผลลัพธ์จึงการันตีได้ไม่ว่าการปลูกผมจะออกมาแบบไหน คลินิกจะรับผิดชอบให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์สุดท้ายที่ดีที่สุด
7. บริการทั้งก่อนและหลังการปลูกผม
นอกจากความชำนาญของแพทย์ประจำคลินิก ไปจนถึงคุณภาพของเครื่องมือและน้ำยาที่ใช้ในขั้นตอนของการผ่าตัดแล้ว การติดตามผลหลังการปลูกผมของคลินิกที่เลือกเข้ารับการบริการ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนไข้ต้องคำนึงถึงเช่นกัน คงไม่มีใครอยากถูกทิ้งไว้กลางทางจริงมั้ยคะ เพราะการปลูกผมต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลลัพธ์ การติดตามผลกับหมอให้ช่วงระยะเวลาต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทั้งหมอและตัวคนไข้เองจะได้เห็นพัฒนาการของผมที่ปลูก
ที่ Hairsmith Clinic มีการติดตามผลอย่างจริงจัง ตั้งแต่หลังปลูกผม 1 วัน 2 สัปดาห์ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี สำหรับคนไข้ที่พักอาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ก็สามารถทำการติดตามผลผ่านทางระบบออนไลน์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนไข้ค่ะ แถมเรายังมีคู่มือดูแลตัวเองและอธิบายขั้นตอนต่างๆ ไว้ให้คนไข้ด้วย นอกจากนี้แล้วหากคนไข้มีข้อสงสัย ก็สามารถติดต่อสอบถามทางคลินิกได้ตลอดเลยค่ะ
สรุป ปลูกผมที่ไหนดี
หมอไม่สามารถฟันธงได้ว่าปลูกผมที่ไหนดีที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับความชอบในผลลัพธ์ของแต่ละบุคคล แต่หมอได้บอกข้อสังเกตต่างๆ ที่ควรให้ความสำคัญสำหรับการเลือกที่จะปลูกผมกับคลินิกไหนดี ในข้างต้นแล้ว
หรือหากมีข้อสงสัยให้เรานัดปรึกษากับคลินิกที่เราสนใจแล้วนำมาเปรียบเทียบกันก่อนได้เลยค่ะ อย่างที่ Hairsmith Clinic สามารถนัดปรึกษากับหมอได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อที่หมอจะได้ประเมินวิธีการรักษาที่เหมาะกับปัญหาของคนไข้แต่ละคนค่ะ