ผมเสีย หรือผมแห้งเสีย แม้ว่าจะเป็นปัญหาเล็กๆ แต่ก็มักจะส่งผลต่อความมั่นใจอยู่เสมอเลยล่ะค่ะ ยิ่งคนที่มีปัญหาผมเสียมากหรือมีปัญหาผมแห้งเสียอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งทำให้การจัดแต่งทรงเป็นเรื่องยากจนกลายเป็นคนที่มีข้อจำกัดของการเลือกทรงผมได้ วันนี้หมออยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับปัญหาผมเสีย และวิธีแก้ผมเสียที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองจากที่บ้านกันค่ะ
แบบไหนถึงเรียกว่าผมเสีย
ก่อนอื่นหมออยากชวนมาสังเกตเส้นผมกันดูก่อนค่ะ ว่าแบบไหนถึงเรียกว่าผมเสียหรือเข้าข่ายว่ากำลังมีปัญหาผมเสีย โดยสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ด้วย 3 วิธีนี้ค่ะ
- ถ้าเส้นผมยาวให้ลองจับเส้นผมมาหนึ่งเส้นแล้วดึงยืดและหดสัก 2-3 ครั้ง ถ้าผมขาดแสดงว่ากำลังมีปัญหาผมเสียมาก เพราะผมที่แข็งแรงต้องมีความยืดหยุ่นดึงเบาๆ ต้องไม่ขาดค่ะ
- วิธีนี้คือการสังเกตเส้นผมตอนหวีค่ะ ถ้าหวีแล้วผมพันติดที่หวีหรือหวีแล้วรู้สึกสากไม่ลื่น นั่นก็เป็นสัญญาณที่บอกว่ากำลังมีปัญหาผมแห้งเสียอยู่ค่ะ
- สุดท้ายคือการสังเกตดูที่ปลายผมว่ามีลักษณะแห้งแตกปลายรึเปล่า ถ้ามีปัญหาผมเสียจะมองเห็นเลยค่ะว่าผมแตกปลายแยกออกเป็น 2-3 แฉก แบบนี้ก็คือสัญญาณว่าผมเริ่มมีปัญหาแล้วนะคะ
แม้จะเป็นปัญหาที่เหมือนจะเล็กน้อยแต่การมีผมเสียมากหรือผมชี้ฟูอย่างเห็นได้ชัดนั่นคือสิ่งที่บ่งบอกถึงสุขภาพเส้นผมที่ขาดการดูแลและบำรุงเส้นอย่างถูกวิธี ซึ่งถ้าปล่อยไว้ไม่ใช่แค่เรื่องความมั่นใจแต่อาจนำไปสู่ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะอื่นๆ ได้เลยค่ะ
ทำความรู้จักกับโครงสร้างของเส้นผมและกลไกของผมเสีย
เพื่อให้รู้จักกับกลไกของผมเสียกันมากขึ้น หมออยากชวนมาทำความรู้จักกับโครงสร้างของเส้นผมแบบเบื้องต้นกันก่อนค่ะ โดยโครงสร้างเส้นผมนั้นมีอยู่ 3 ชั้นด้วยกันคือ
- Cuticle : เป็นโครงสร้างที่อยู่ชั้นนอกสุดลักษณะเป็นเกล็ดเรียงซ้อนกัน ซึ่งเป็นชั้นที่มีเคราตินที่ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง และป้องกันการซึมของสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปทำลายเส้นผม ยิ่งคิวติเคิลมีความแข็งแรงก็ยิ่งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของเส้นผมเอาไว้ได้ยาวนานค่ะ
- Cortex : คอร์เท็กซ์ คือโครงสร้างเส้นผมที่อยู่ชั้นกลางซึ่งเป็นชั้นของเนื้อผมและเป็นชั้นที่มีความหนามากที่สุดของโครงสร้างเส้นผม มีส่วนช่วยให้เส้นผมมีความยืดหยุ่น และยังเป็นชั้นที่กำหนดสีผมเพราะเป็นแหล่งรวมของเม็ดสีเมลานินค่ะ
- Medulla : เป็นชั้นแกนผมที่เกิดจากไขมันและโปรตีน แม้ไม่มีบทบาทต่อเส้นผมมากแต่การมีแกนผมก็บ่งบอกได้ถึงสุขภาพเส้นผมที่ดีและมีเส้นผมหนาค่ะ
ทั้งสามส่วนคือโครงสร้างของเส้นผมที่มีส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแรงและเกราะป้องกันให้เส้นผม โดยเฉพาะส่วนคิวติเคิลผมที่เปรียบเหมือนปราการด่านแรกของเส้นผม หากผมขาดโปรตีนหรือไม่ได้รับการบำรุงดูแลอย่างเหมาะสม เกล็ดผมในชั้นคิวติเคิลก็จะเปราะบางและแตกออก ทำให้สูญเสียน้ำและความชุ่มชื้นในชั้นคอร์เท็กซ์จนกลายเป็นปัญหาผมแห้งเสียในที่สุดค่ะ
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เส้นผมสำคัญอย่างไร ทำไมคนเราต้องมีผม
สาเหตุของผมเสีย
สำหรับสาเหตุของผมเสียที่พบบ่อยนั้นต้องแบ่งออกเป็นสองช่วงวัยค่ะ ที่เราพบบ่อยคืออยู่ระหว่างช่วงอายุ 20-40 ปีค่ะ โดยช่วงวัย 20-30 ปี คือวัยที่มีปัญหาผมแห้งเสียจากการทำเคมีหรือเส้นผมโดนความร้อนอยู่เป็นประจำ ส่วนช่วงวัย 30-40 ปี นั้นจะมีสาเหตุมาจากความเครียดและความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่วมด้วยค่ะ นอกจากนี้เส้นผมที่แห้งเสียและหลุดร่วงนั้นยังมีปัจจัยภายในและภายนอกอื่นๆ ด้วยนะคะ เช่น
ปัจจัยภายใน
- ฮอร์โมนไม่สมดุล
- ภาวะความเครียด
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
- พันธุกรรม
- โรคผื่นแพ้สัมผัส
ปัจจัยภายนอก
- มลภาวะทางอากาศ
- การทำเคมีกับเส้นผม
- ผมเสียจากการดัด
- ใช้น้ำอุ่นสระผมเป็นประจำ
- เช็ดผมด้วยความรุนแรงเป็นประจำ
- จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนเป็นประจำ
- ทานยาที่มีผลต่อการผลิตไขมันที่ต่อมไขมัน
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ยืด ดัด ทำสีผม ทำให้ผมร่วงจริงหรือ
4 ประเภทของผมเสียที่ต้องเข้ารับการดูแล
สำหรับผมเสียที่พบบ่อยนั้นมีอยู่ทั้งหมด 4 ลักษณะ โดยที่แต่ละแบบก็มีต้นตอของสาเหตุและปัจจัยที่แตกต่างกัน รวมถึงการรักษาที่ต่างกันออกไป ดังนี้ค่ะ
1. ผมแห้งกรอบ
ลักษณะของผมแห้งกรอบนั้นเกิดขึ้นได้จากความร้อนทั้งจากการดัดหรือจัดแต่งทรงผม รวมถึงสภาพอากาศที่ร้อนจัด รังสี UV ยิ่งเป็นเส้นผมที่ขาดการดูแลด้วยยิ่งทำให้เกิดผมแห้งกรอบและขาดได้ง่าย หากมีระดับที่รุนแรงมากแค่หวีก็เห็นผมหลุดติดหวีได้ทันทีค่ะ
การดูแลเบื้องต้นคือหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นสระผมและฟื้นฟูด้วยการทำทรีทเมนท์ผมเสีย รวมถึงการใช้สเปรย์กันความร้อนก่อนเป่าผมด้วยความร้อนก็จะช่วยลดปัญหาผมเสียแห้งกรอบได้ค่ะ
2. ผมชี้ฟู
อีกหนึ่งลักษณะของผมเสียที่พบบ่อยที่มีปัจจัยคล้ายกับผมแห้งกรอบเพราะมาจากการใช้ความร้อนกับเส้นผม ทั้งการดัดผม ทำสีผม สระผมด้วยน้ำร้อน และยังมีสาเหตุจากการขาดสารอาหารหรือแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผม โดยผมแห้งชี้ฟูไม่มีน้ำหนักจะทำให้เกิดปัญหาจัดแต่งทรงยากยิ่งเป็นคนผมยาวจะยิ่งมีความชี้ฟูจนเสียความมั่นใจได้เลยค่ะ
วิธีแก้ผมเสียชี้ฟูคือการใช้น้ำมันบำรุงเส้นผมและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ที่เหมาะสมและเล็มปลายผมแตกปลายอยู่เสมอเพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดผมเส้นใหม่ หากชอบดัดผม ยืดผม หรือเปลี่ยนสีผมบ่อย ควรหยุดพักการทำเคมีชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมก่อน ที่สำคัญอย่าลืมเสริมสารอาหารให้เส้นผมด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อดูแลเส้นผมจากภายในอยู่เสมอด้วยนะคะ
3. ผมแตกปลาย
ปัญหาผมแตกปลายส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการโดนมลภาวะและขาดการดูแลเส้นผม รวมทั้งการใช้ความร้อนจัดแต่งเส้นผม สารเคมีจากครีมนวด แชมพูและยังเป็นไปได้จากพฤติกรรมของการหวีผมหรือเช็ดผมแรงเกินไป ทำให้เส้นผมเสียแตกปลาย และขาดการบำรุงเส้นผมทั้งจากภายในและภายนอก
วิธีแก้ปัญหาผมเสียผมแตกปลาย หมอแนะนำให้เริ่มด้วยการเล็มปลายผมส่วนที่มีการแตกปลายอย่างน้อยทุก ๆ 3-4 เดือน และบำรุงด้วยการทรีทเมนต์เส้นผมเพื่อฟื้นฟูและเป็นการให้อาหารเส้นผม หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นสระผมและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผมแห้งเสียแตกปลาย รวมถึงการหลีกเลี่ยงการนอนขณะที่เส้นผมเปียกด้วยค่ะ
4. ผมร่วงและผมบาง
สำหรับปัจจัยสำคัญของผมร่วงและผมบางส่วนใหญ่แล้วเกิดจากปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม ความเครียด โรคบางชนิด หรือความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการขาดสารอาหารบำรุงผมด้วยค่ะ สำหรับคนที่มีผมเสียมากแล้วไม่ได้รับการฟื้นฟูก็อาจทำให้ผมหลุดร่วงได้ง่ายจนมีภาวะผมบางได้ค่ะ
วิธีรักษาผมร่วงและผมบางนั้นอาจแตกต่างกับลักษณะผมเสียแบบอื่นๆ อยู่เหมือนกันค่ะ เพราะต้องรักษาด้วยการใช้ยาทาหรือยารับประทานการทำทรีทเม้นท์ผมเสีย เลเซอร์ หรือหากมีปัญหาผมบางมากอาจต้องรับการกระตุ้นด้วยวิธีฉีด PRP หรือการปลูกผมค่ะ
การดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผมเสีย
วิธีดูแลและป้องกันเส้นผมแห้งเสียที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงความร้อนและการใช้สารเคมีกับเส้นผมเป็นเวลานาน เพราะปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลเสียกับเส้นผมในระยะยาว และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เส้นผมขาดโปรตีน สูญเสียความชุ่มชื้นจนกลายเป็นปัญหาผมเสียค่ะ
นอกจากนี้การเติมอาหารให้กับเส้นผมอย่างการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและธาตุเหล็กก็ยังมีส่วนช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างเส้นผมได้ ทั้งนี้หมอขอแนะนำว่าควรทำทรีทเม้นท์ผมบ้างเดือนละครั้งก็เป็นวิธีที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันและฟื้นฟูเส้นผมที่มีปัญหาได้ค่ะ
สำหรับคนที่หลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผมไม่ได้ หรือมีความจำเป็นต้องใช้ยาย้อมผม แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติและไม่ผสมสารเคมีจะช่วยลดการเกิดผมเสียได้ และเสริมเกราะป้องกันเส้นผมด้วยก่อนการทำความร้อนด้วยน้ำมันบำรุงเส้นผมที่มีส่วนช่วยป้องกันความร้อนก็จะช่วยลดการเกิดผมเสียชี้ฟูได้เช่นกันค่ะ
ทางที่ดีแล้วควรเว้นการทำสี ดัด ย้อม หรือเว้นช่วงครั้งต่อไปห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน ก็จะช่วยให้ผมได้ฟื้นฟูป้องกันปัญหาผมเสียมากได้ค่ะ ดังนั้น การดูแลเส้นผมด้วยตัวเองเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพเส้นผม ป้องกันการเกิดผมเสียได้ดีที่สุดค่ะ
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 10 เคล็ดลับ บำรุงผม ให้ผมสวยเงางาม