อัญชันทำให้คิ้วดกดำจริงมั้ย
หากดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ตำแหน่งมงกุฎของใบหน้าก็คงหนีไม่พ้นคิ้วของเราอย่างแน่นอน ใครที่เกิดมาพร้อมกับทรงคิ้วที่ได้รูปเส้นขนหนาอัดแน่นเรียงตัวสวยได้องศาก็คงรู้สึกโชคดีไม่น้อย กลับกันกับชาวคิ้วบางที่คงได้แต่นึกโทษผู้ปกครอง ว่าสงสัยคงลืมเอาอัญชันทาคิ้วให้ตอนเด็กแน่ๆ เอ๊ะ! แล้วเรื่องการเอาอัญชันทาคิ้วนี่เป็นเรื่องที่ได้ผลจริงจนไม่ต้องพึ่งพาการปลูกคิ้วเลยหรือเปล่า มาลองดูกันค่ะว่าระหว่างดอกอัญชันแสนสวยกับคุณหมอปลูกผมปลูกคิ้ว ใครจะชนะในแคมเปญนี้!
ประโยชน์ของดอกอัญชัน
ดอกอัญชัน หรือ Butterfly pea, Blue pea เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ ปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อน ลักษณะของดอกจะมีสีขาว ฟ้า ม่วง ส่วนตรงกลางดอกจะมีสีเหลืองนิดๆ รูปทรงคล้ายหอยเชลล์
ซึ่งในดอกอัญชันเอง มีสารชนิดหนึ่งที่ถือว่าเป็นสารหลักและเป็นตัวชูโรงของเรื่องนี้เลย นั่นก็คือสาร “แอนโทไซยานิน” (Anthocyanin) ที่มีฤทธิ์ที่จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีมากขึ้น
เช่น ถ้าเลือดไปเลี้ยงรากผมได้ดี เส้นผมก็จะดกดำเงางามขึ้น ถ้าเลือดไปเลี้ยงดวงตาได้ดีก็จะเป็นการบำรุงสายตา เป็นต้น นอกจากนี้ในดอกอัญชันยังมีสรรพคุณที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการอุดตันของเส้นเลือด ช่วยสลายลิ่มเลือด และยังช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบได้อีกด้วย แต่มีข้อควรระวังนิดๆ ว่าผู้ที่มีภาวะเลือดจาง ไม่ควรกินดอกอัญชันหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากดอกอัญชันบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้เลือดที่จางอยู่แล้วยิ่งใสจางมากขึ้นไปอีกค่ะ
ความเชื่อเรื่องการใช้อัญชันทาคิ้วทารก
ในส่วนของความเชื่อเรื่องการทาดอกอัญชันลงบนคิ้วของเด็กทารกนั้น ยังไม่มีการระบุจุดเริ่มต้นหรือที่มาอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับหลักฐานทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่จะยืนยันผลลัพธ์ในข้อนี้ได้ คำตอบของความเชื่อเก่าแก่ในข้อนี้จึงต้องตอบว่า
การใช้อัญชันทาคิ้วทารกแล้วทำให้คิ้วดกดำนั้นไม่เป็นความจริงค่ะ
เพราะถึงแม้ว่าในอัญชันจะมีสารแอนโทไซยานินที่ช่วยในระบบไหลเวียนเลือด แต่กลับไม่มีสารตัวใดที่มีสรรพคุณในการเพิ่มอัตราการเกิดของขนคิ้ว หรือเร่งการเจริญเติบโตของเส้นขนค่ะ
ลูกเกิดมาคิ้วบางทำไงดี?
เพราะคิ้วคือมงกุฎของใบหน้า แถมยังมีส่วนเชื่อมโยงกับความเชื่อในด้านโหงวเฮ้งศาสตร์มากมาย พ่อแม่จำนวนไม่น้อยจึงค่อนข้างเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าลูกน้อยที่คลอดออกมา คิ้วบางและจางจนแทบจะมองไม่เห็น แบบนี้ทำยังไงได้บ้าง? อันดับแรกคือทำใจยอมรับในธรรมชาติของลูกก่อนเลยค่ะ แล้วมาทำความเข้าใจกับสาเหตุที่ทำให้ทารกคิ้วบางกัน
- กรรมพันธุ์พ่อแม่มีส่วน
- การได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
- กระบวนการสร้างเส้นขนผิดปกติ
- การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงรากขนไม่ดี
เมื่อทราบสาเหตุต่างๆ ที่พอจะเกิดขึ้นได้บ้างแล้ว การรอเวลาก็เป็นอีกสิ่งที่ทำได้ เพราะขนคิ้วของทารกนั้นจะเติบโตเต็มที่เมื่ออายุเข้าสู่ช่วง 3-4 เดือน และจะอยู่ในรูปแบบนั้นจนโตเลยค่ะ แต่ถ้าโตแล้วขนคิ้วยังขึ้นไม่เป็นที่น่าพอใจ ก็มีทางออกสำหรับเรื่องนี้อยู่ นั่นก็คือการปลูกคิ้ว
การปลูกคิ้ว
การปลูกคิ้วก็เหมือนกับการปลูกผม เพราะก็เป็นการย้ายเอากราฟท์ผมจากบริเวณ Donor area ที่อยู่ตรงท้ายทอยหรือด้านข้างศีรษะ นำมาปลูกที่บริเวณคิ้วของเราเช่นเดียวกับวิธีการปลูกผมแบบ FUE ที่แผลมีขนาดเล็กไม่ถึง 1 มิลลิเมตร ไม่ต้องพักฟื้น และดูเป็นธรรมชาติเหมือนขนคิ้วจริง แต่อาจต้องมีการดูแลในส่วนของการตัดเล็มมากกว่าเดิมสักหน่อย เพราะเส้นขนจะเติบโตและมีรูปร่างความยาวเหมือนกันกับแหล่งที่มา เช่น ถ้าเรานำเส้นผมมาปลูกที่คิ้ว ขนคิ้วที่ขึ้นใหม่ก็จะยาวได้เหมือนเส้นผมเลยล่ะค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการปลูกผมหรือปลูกคิ้ว การเลือกคลินิกหรือแพทย์ที่มีความชำนาญก็ถือว่าสำคัญมากๆ เพราะความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ก็เป็นเครื่องการันตีที่ดีว่าผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาเป็นที่ถูกใจแน่นอน
สรุป
ความเชื่อเรื่องการเอาดอกอัญชันมาทาคิ้วทารกเพื่อให้คิ้วดกดำนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะในดอกอัญชันมีสารแอนโทไซยานิน (ANTHOCYANIN) ที่มีสรรพคุณในการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้ไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น แต่ไม่มีส่วนช่วยในเรื่องของการเร่งการเติบโตของเส้นขนแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดีปัจจัยที่ทำให้ทารกนั้นคิ้วหนาหรือบางขึ้นอยู่กรรมพันธุ์เป็นหลัก หรืออาจจะเกิดจากการขาดสารอาหารบางชนิด ความผิดปกติของกระบวนการสร้างเส้นขน และการไหลเวียนเลือดไปที่รากขนไม่ดีก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้การเติบโตของขนคิ้วจะเจริญเต็มที่เมื่อเด็กมีอายุ 3-4 เดือน แต่ถ้าหากโตมาแล้วความหนาของคิ้วยังไม่เป็นที่น่าพอใจ การปลูกคิ้วก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ปลอดภัย และรับรองว่าดูเป็นธรรมชาติไม่ต่างกับขนคิ้วจริงๆ เลยล่ะค่ะ
