เรื่องรังแคและเชื้อรากวนใจ ถือเป็นหนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเส้นผมที่คนส่วนใหญ่พบเจอกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซี่งการจะกำจัดปัญหาดังกล่าวจะว่ายากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่าย เพราะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคนไข้ส่วนหนึ่งและการรักษาที่ตรงจุดด้วยส่วนหนึ่ง หัวข้อในวันนี้หมอจะมาพูดเกี่ยวกับวิธีในการรักษารังแคและเชื้อรา โดยมี Ketoconazole Shampoo เป็นพระเอกหลักของเรื่องค่ะ
Ketoconazole คืออะไร
คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) คือ ยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อราที่ผิวหนังและในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น เชื้อราในเลือด ปอด ช่องคลอด กลาก เกลื้อน และรังแค โดย Ketoconazole จะทำหน้าที่กำจัดเชื้อราที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ ด้วยการจะหยุดการสังเคราะห์ของเออร์กอสเตอรอล (Ergosterol) ที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อรา ทำให้การลำเลียงอาหารเข้าเซลล์ของเชื้อราถูกทำลาย ทำให้เชื้อราขาดสารอาหารและหยุดการเจริญเติบโต พร้อมทั้งยังป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราใหม่อีกด้วย
Ketoconazole มีรูปแบบอะไรบ้าง
โดย Ketoconazole ที่ใช้รักษาเชื้อรานั้น จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่
Ketoconazole แบบกิน
ใช้สำหรับกิน โดยจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และอาการของโรค ซึ่งในรูปแบบนี้แพทย์มักจะไม่ค่อยแนะนำให้เป็นทางเลือกแรกสักเท่าไร เพราะเป็นไปได้ว่าคนไข้ที่ได้รับยาจะมีอาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน และยังเป็นพิษต่อตับสูงอีกด้วย
Ketoconazole แบบครีม
ใช้รักษาโรคติดเชื้อราทางผิวหนังโดยการทา ซึ่งอาการที่ Ketoconazole แบบทานั้น จะรักษาอาการประเภท กลากเกลื้อน แต่จะทำให้เกิดอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ระคายเคืองผิว คัน แสบร้อน เป็นต้น
Ketoconazole แชมพู
หรือที่เรียกว่า Ketoconazole Shampoo ที่มี Ketoconazole 2% เป็นตัวยาสำคัญ ใช้สำหรับสระหรือฟอกในบริเวณที่ปรากฏอาการ เช่น รังแค เชื้อราบนหนังศีรษะ ซึ่งเจ้าตัว Ketoconazole Shampoo นี้แหละค่ะที่หมอยกให้เป็นพระเอกของวันนี้ และหมอจะอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ในหัวข้อถัดไปค่ะ
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เชื้อราบนหนังศีรษะ เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม!
ข้อดีของ Ketoconazole Shampoo
มาถึงในหัวข้อของข้อดีของ Ketoconazole Shampoo กันบ้าง ว่าถ้าหากใช้ในปริมาณ ความถี่ และจำนวนครั้งที่ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ ก็จะช่วยรักษาปัญหารังแคและหนังศีรษะของเราได้ ส่วนใหญ่หากคนไข้ต้องการรักษาโรคหนังศีรษะ จะต้องใช้ Ketoconazole Shampoo 1- 2% ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ โดยต้องฟอกทิ้งเอาไว้ 3-5 นาทีก่อนล้างออก แต่ถ้าหากคนไข้ต้องการใช้เพื่อการป้องกันโรค สามารถใช้ Ketoconazole Shampoo แบบ 2% ใช้เพียงแค่ 1 ครั้ง ทุก 1-2 สัปดาห์เท่านั้น ไม่ควรใช้ต่อเนื่องนานเกินไป โดยข้อดีของ Ketoconazole Shampoo ก็มีดังต่อไปนี้
- ช่วยลดการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ที่บริเวณรากผม ทำให้ช่วยลดผมบางจากกรรมพันธุ์ได้
- รักษารังแคและป้องกันการเกิดรังแคซ้ำซ้อน
- ทำให้ผมไม่มัน ทั้งยังช่วยลดความมันบนหนังศีรษะหากใช้ในบริมาณที่กำหนด
- รักษาโรคผิวหนังที่เกิดบนหนังศีรษะ รวมไปถึงสามารถรักษาโรคเซ็บเดิร์มหรือโรคต่อมไขมันอักเสบได้อีกด้วย ถ้าหากใครสนใจเรื่องของโรคเซ็บเดิร์ม สามารถเข้าไปอ่านได้ที่บทความเรื่อง “เป็นเซ็บเดิร์มปลูกผมได้มั้ย” ที่หมอเคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ได้เลยค่ะ
- ช่วยรักษาโรคเชื้อราบนหนังศีรษะ เพราะ Ketoconazole มีฤทธิ์ที่สามารถยับยั้งการลำเลียงสารอาหารของเชื้อราได้ ทำให้เชื้อราไม่สามารถเจริญเติบโตบนหนังศีรษะของเราได้อีกต่อไป
อาการข้างเคียงของ Ketoconazole Shampoo
และถึงแม้ว่าสรรพคุณของ Ketoconazole Shampoo จะฟังดูดีแค่ไหน แต่ก็อย่าลืมว่าตัวยาชนิดนี้เป็นยาที่มีอาการข้างเคียงเยอะ และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์ที่มักเกิดขึ้น จะมีอาการต่าง ๆ แบบนี้ค่ะ
- มีอาการหนังศีรษะแห้งมากจนเกินไป เพราะ Ketoconazole Shampoo มีส่วนช่วยลดความมันบนหนังศีรษะ ถ้าหากใช้มากเกินหรือติดต่อกันนานเกินไปก็อาจทำให้หนังศีรษะแห้งได้ค่ะ
- มีอาการระคายเคืองหนังศีรษะ ไม่ว่าจะเป็น อาการคัน แสบร้อน หรือปวดบวมก็นับเป็นอาการข้างเคียงทั้งหมด และถือเป็นอาการแพ้แบบที่สามารถพบได้ในกรณีที่แพ้ผลิตภัณฑ์และตัวยาอื่นเช่นกัน
ซึ่ง 2 อาการข้างเคียงที่ได้พูดถึงไปข้างต้น สามารถหายได้เอง เพียงแค่ลดปริมาณการใช้หรือหยุดใช้ยา อาการก็จะหายไปได้เองโดยไม่ต้องพบแพทย์ แต่ถ้าหากมีอาการที่รุนแรงมาก เช่น วิงเวียน ปวดหัว เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นเร็ว เป็นลม เหนื่อยอ่อน คลื่นไส้อาเจียน รู้สึกเจ็บท้องส่วนบนเนื่องมาจากเกิดความผิดปกติที่ตับ รวมไปถึงมีปัสสาวะสีเข้มและไม่อยากอาหารร่วมด้วย ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
เพราะถือว่ามีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง และตัวยา Ketoconazole สำหรับกินมักส่งผลกระทบต่อตับ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าหากเราต้องการรักษาอาการที่เป็นด้วย Ketoconazole แบบกินจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพราะแพทย์บางคนอาจจำเป็นที่จะต้องเช็คค่าตับก่อนการวินิจฉัยนั่นเองค่ะ
สรุป
Ketoconazole ยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อราที่ผิวหนังและในร่างกาย ทำหน้าที่กำจัดเชื้อราที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ ด้วยการจะหยุดการสังเคราะห์ของ Ergosterol ที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อรา ทำให้การลำเลียงอาหารเข้าเซลล์ของเชื้อราถูกทำลาย ทำให้เชื้อราขาดสารอาหารและหยุดการเจริญเติบโต พร้อมทั้งยังป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ แบบเม็ด แบบครีมและแบบแชมพู ซึ่งวิธีใช้นั้นจะต้องใช้ Ketoconazole Shampoo 1- 2% ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ โดยต้องฟอกทิ้งเอาไว้ 3-5 นาทีก่อนล้างออก แต่ถ้าหากคนไข้ต้องการใช้เพื่อการป้องกันโรค สามารถใช้ Ketoconazole Shampoo แบบ 2% ใช้เพียงแค่ 1 ครั้ง ทุก 1-2 สัปดาห์เท่านั้น ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกินไป
ประโยชน์ของ Ketoconazole Shampoo สามารถช่วยลดผมบางจากกรรมพันธุ์ได้ รักษารังแค ช่วยลดความมันบนหนังศีรษะ รักษาโรคเซ็บเดิร์ม และเชื้อราบนหนังศีรษะ ในส่วนของอาการข้างเคียงที่มักเกิดขึ้น จะมีอาการศีรษะแห้งมากเกินไป ระคายเคืองหนังศีรษะ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่เป็นอันตราย เพียงแค่หยุดใช้ อาการก็จะหายไปได้เองโดยไม่ต้องพบแพทย์ แต่ถ้าหากมีอาการที่รุนแรงมาก เช่น วิงเวียน ปวดหัว เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นเร็วรู้สึกเจ็บท้องส่วนบนเนื่องมาจากเกิดความผิดปกติที่ตับ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะถือว่ามีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรงค่ะ