ปลูกหนวด ปลูกเครา

ถ้าพูดถึงการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี นอกจากเรื่องเส้นผมที่ใครๆ ต่างก็ใส่ใจเป็นอันดับต้นๆ กันอยู่แล้ว ในกรณีของคุณผู้ชายหลายต่อหลายคน ยังรวมไปถึงเรื่องของหนวดและเคราอีกด้วย นั่นเป็นเพราะการมีหนวดเครา นอกจากจะทำให้รูปลักษณ์ของเราดูโดดเด่นมีสไตล์ขึ้นมาได้แล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้มีมากขึ้นได้เป็นอย่างดี แต่ทีนี้ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีหนวดเคราที่ดกหนาได้ดั่งใจ ซึ่งอาจเป็นผลจากกรรมพันธุ์ รอยแผลเป็น หรือฮอร์โมนที่น้อยกว่าปกติก็ได้ ปลูกหนวด เครา จอน จึงเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ปัญหาตรงนี้ได้อย่างตรงจุดและถาวร

ปลูกหนวด เครา จอน คืออะไร

การปลูกหนวด เครา จอน เป็นการย้ายเอาเส้นผมหรือขน มาปลูกในบริเวณรอบริมฝีปาก คางหรือแนวกรอบหน้าตามที่เราต้องการ ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะใช้เทคนิคเดียวกันกับการปลูกผมถาวร โดยเส้นผมหรือขนที่มักถูกนำมาปลูกเป็นหนวดและเครา จะมาจากบริเวณ Donor area ด้านหลังศีรษะตรงบริเวณท้ายทอย ซึ่งถือว่าเป็นเส้นผมในโซนพื้นที่ถาวรและแข็งแรง  ทำให้เมื่อปลูกเป็นหนวด เป็นเคราไปแล้ว เส้นขนจะอยู่กับเราตลอดไป 

ผลลัพธ์การปลูกหนวด เครา จอน เห็นผลเมื่อไหร่

การปลูกหนวด ปลูกเครา ปลูกจอน ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์จะเหมือนกับการปลูกผม ดังนี้

• ช่วง 3-7 วันแรก อาจมีอาการบวมเล็กน้อยและจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ แผลเริ่มตกสะเก็ดแล้ว
• ช่วง 2 สัปดาห์ เป็นระยะที่รากผมฝังตัวแล้ว สะเก็ดหลุดเกือบหมดแล้ว
• ช่วง 3 เดือน ขนเริ่มขึ้นเป็นเส้นบางๆ ประมาณ 10-15%
• ช่วง 6 เดือน เส้นขนเริ่มหนาขึ้น เริ่มเห็นแนวหนวด เครา ชัดเจนมากขึ้น
• ช่วง 12 เดือน ขนที่ปลูกไปหนาเต็มที่ เห็นแนวหนวด เครา จอน ชัดเจนอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถตัดแต่งทรงได้ตามต้องการ

ปลูกหนวด ราคาเท่าไหร่

สำหรับราคาปลูกหนวด เครา จอน ที่ Hairsmith Clinic เริ่มต้นที่ 49,000 บาท โดยเทคนิค FUT และ FUE ราคากราฟท์ละ 75 บาท และเทคนิค Non-shaven FUE (แบบไม่โกนผม) ปลูกหนวดราคากราฟท์ละ 140 บาท ดูแลทุกขั้นตอนโดยแพทย์อเมริกันบอร์ดด้านการปลูกผมโดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2014 อย่างคุณหมอพรีมา ทศบวร ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบการปลูกหนวด เครา จอน ให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด

วิธีการปลูกหนวด เครา จอน มีขั้นตอนอย่างไร

การปลูกหนวด เครา จอน ที่ Hairsmith Clinic ใช้เทคนิคเดียวกันกับการปลูกผมถาวร มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่ FUT และ FUE เป็นการนำรากผมจากบริเวณท้ายทอย ย้ายมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ โดยจะใช้ Implanter pen เป็นอุปกรณ์ในการปลูกผมสำหรับทุกเคส ซึ่งการเลือกแต่ละเทคนิคมาปลูกนั้นขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ว่าคนไข้แต่ละท่านเหมาะสมกับเทคนิคใด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเอง โดยการปลูกหนวด ปลูกเครา ปลูกจอน มีขั้นตอนสำคัญดังนี้

1. ออกแบบแนวหนวด เครา จอน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามความต้องการของคนไข้
2. โกนผมบริเวณท้ายทอย (Donor Area) จากนั้นแพทย์จะทำการเจาะรากผมตามจำนวนกราฟท์ที่คำนวนไว้แล้ว
3. นำรากผมที่เจาะออกมาไปเก็บไว้ในน้ำยาแช่กราฟท์ที่ดีที่สุดในโลกที่ออกแบบมาเพื่อการปลูกผมโดยเฉพาะ
4. นำรากผมไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ โดยใช้ Implanter Pen แทนการใช้คีมเล็กๆ แบบดั้งเดิม เพื่อลดโอกาสสร้างความเสียหายให้กับรากผม

วิธีการดูแลตัวเองหลังการปลูกหนวด ปลูกเครา

การดูแลตัวเองหลังจากการปลูกหนวด ปลูกเครานั้น ถือว่าไม่ยากอย่างที่กังวลกันสักเท่าไหร่นัก แต่อาจจะมีข้อควรระวังที่มากกว่าการปลูกผมปกติสักหน่อย อาทิเช่น

1. หลังจากที่ปลูกหนวด ปลูกเคราไป ไม่ควรถู แคะ แกะ เกา ตรงบริเวณพื้นที่ปลูก โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพื่อรอให้รากขนฝังตัวเรียบร้อยเสียก่อน
2. ช่วงประมาณ 3 วันแรก แนะนำให้ทานอาหารอ่อนๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยวมากนัก เพื่อลดการขยับใบหน้าระหว่างที่รากขนกำลังฝังตัว
3. ดูแลความสะอาดให้ดี เนื่องจากตรงบริเวณปากของเรา จะเป็นแหล่งที่มีแบคทีเรียและเชื้อโรคเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ จึงต้องทำความสะอาดหลังทานอาหารทุกครั้ง
4. ในช่วงวันแรกๆ ที่นอนหลับพักผ่อน ต้องแน่ใจว่าบริเวณพื้นที่ปลูกนั้น จะไม่ถูกถูหรือเสียดสีกับหมอนและผ้าห่มจนทำให้กราฟท์หลุด สามารถนอนตะแคงได้ในลักษณะที่นอนทับลงไปตรงๆ โดยไม่ให้ถูไปมา หากจะให้ปลอดภัยที่สุดแนะนำให้นอนหงาย

ข้อดีและข้อจำกัดของการปลูกหนวด เครา จอน

ข้อดี

1. สามารถออกแบบรูปทรงของหนวด เคราที่ต้องการจะปลูกได้ เนื่องจากหากยึดตามกรรมพันธุ์ของแต่ละคน ทรงหนวดที่มีมาตั้งแต่แรกอาจเป็นทรงที่ไม่ถูกใจหรือทำให้เจ้าตัวเสียความมั่นใจได้ ดีไม่ดีในบางรายก็ไม่มีหนวดให้เห็นเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นการปลูกหนวด ปลูกเคราจึงเป็นทางออกที่ดี ที่จะเรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาแบบเต็มร้อย
2. สามารถปลูกทับในส่วนที่ไม่มีขนขึ้นได้ เช่น อาจเกิดอุบัติเหตุจนได้รับแผลเป็นบริเวณคางมา ทำให้หนวดเคราตรงบริเวณนั้นๆ หายไป การปลูกหนวดเคราใหม่ทับลงได้ จึงสามารถช่วยปกปิดร่องรอยเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
3. เห็นผลชัดเจนทันทีหลังปลูก หลังจากปลูกหนวด ปลูกเคราเสร็จ เราจะได้เห็นแนวหนวดที่ปลูกไปอย่างชัดเจน ทำให้สามารถคาดการณ์ถึงผลลัพธ์ในอนาคตเมื่อหนวดเครางอกยาวออกมาเต็มที่ได้อย่างชัดเจน
4. แทบไม่เจ็บและพักฟื้นไม่นาน เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเล็ก อีกทั้งในส่วนของแผลเจาะและแผลปลูกยังมีขนาดเล็กกว่า 1 มิลลิเมตร จึงแทบไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นเลย

ข้อจำกัด

1. มีผมด้านหลังไม่เพียงพอ – อย่างที่ทราบกันไปข้างต้น ว่าการปลูกหนวด ปลูกเครานั้น จำเป็นที่จะต้องใช้เส้นผมตรงบริเวณ Donor area ด้านหลังแถวๆ ท้ายทอย การที่คนไข้มีผมตรงด้านหลังน้อยหรือบาง แพทย์ก็จะไม่สามารถทำการเจาะย้ายผมด้านหลังออกมาปลูกหนวดเคราในบริเวณที่ต้องการได้
2. เนื่องจากการปลูกหนวด ปลูกเครา เป็นการผ่าตัดตรงบริเวณใกล้กับริมฝีปาก อันเป็นแหล่งรวมแบคทีเรียและเชื้อโรค คนไข้จึงจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสในการติดเชื้อให้ได้มากที่สุด

การปลูกหนวด ปลูกเครา เหมาะกับใคร

1. เหมาะกับผู้ที่มีจำนวนเส้นผมจากบริเวณ Donor area เพียงพอ เพราะการปลูกหนวด ปลูกเครานั้น นิยมใช้เส้นผมที่มาจากผมด้านหลัง เพราะเป็นส่วนที่เส้นผมแข็งแรงที่สุด อีกทั้งหากคนไข้มีผมด้านหลังน้อยอยู่แล้ว การฝืนเจาะเอารากผมออกมา นอกจากจะทำให้หนวดเคราที่ได้ไม่มีความหนาแน่นเพียงพอแล้ว ยังทำให้ผมด้านหลังบางจนสังเกตเห็นได้ชัดเจนอีกด้วย
2. เหมาะกับคนที่ผ่านการรักษาด้วยการทานยาและใช้ยาทาภายนอกมาแล้วแต่ไม่ได้ผล การปลูกหนวด ปลูกเคราก็นับเป็นการรักษาอีกวิธีที่ได้ผลดีไม่แพ้กัน
3. เหมาะกับคนที่ต้องการปกปิดรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุต่างๆ รอยแผลจากการผ่าตัดรักษาหรือรอยโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นมาแล้วทำให้สูญเสียความมั่นใจไป
4. เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า หรือเติมความหนาของหนวดเคราให้เข้ากับใบหน้ามากขึ้น
5. เหมาะกับ LGBTQ+ ที่ต้องการปลูกหนวด ปลูกเครา เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ทางเพศที่ต้องการ

สรุป

การปลูกหนวด ปลูกเครา ปลูกจอน คือการย้ายเอาเส้นผมจากบริเวณท้ายทอยหรือ Donor area โดยจะใช้วิธีเช่นเดียวกับการปลูกผมอย่าง FUT และ FUE ก่อนจะนำมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งการปลูกหนวดเครานั้นจะมีวิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดที่ใกล้เคียงกับการปลูกผมเลย นั่นก็คือการไม่ถู แคะ แกะ เกา ตรงบริเวณที่เพิ่งปลูกไปในช่วง 2 สัปดาห์แรก แต่จะต้องใส่ใจในเรื่องของความสะอาดมากกว่าเสียหน่อย เนื่องจากบริเวณใกล้ๆ ริมฝีปากจะมีแบคทีเรียและเชื้อโรคเป็นจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าการปลูกผม ทั้งนี้ข้อดีของการปลูกหนวด ปลูกเครา คือการที่เราสามารถออกแบบรูปทรงของหนวดเคราเองได้ ทั้งยังสามารถปลูกทับรอยแผลเป็นได้ด้วย ข้อจำกัดของการปลูกหนวด ปลูกเครา คือคนไข้จะต้องมีเส้นผมในบริเวณท้ายทอยที่เพียงพอ เพื่อไม่ให้การเจาะเอารากผมออกมา ทำให้ผมด้านหลังบางลงนั่นเอง