ถ้าพูดถึงเรื่องของการปลูกผม หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า การปลูกผมนั้นมีกี่เทคนิค และมีขั้นตอนในการทำอย่างไรบ้าง ปลูกผม FUE เป็นเทคนิคที่แพร่หลายและได้รับความนิยมจากทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและได้รับความสนใจจากผู้ที่อยากปลูกผมอย่างมากมาย ในวันนี้ทาง Hairsmith Clinic จะมาอธิบายรายละเอียด ของการปลูกผมแบบ FUE ให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ
ปลูกผม FUE คืออะไร
ปลูกผม FUE หรือ Follicular Unit Excision คือ 1 ใน 2 วิธีการปลูกผมที่สมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) บัญญัติเอาไว้ โดยเป็นวิธีการที่เราจะทำการเจาะเอารากผมจาก Donor area ที่อยู่บริเวณด้านหลังหรือด้านข้างศีรษะ ซึ่งเป็นบริเวณของผมถาวรที่ไม่ได้รับหรือได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHI อันเป็นฮอร์โมนต้นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วงผมบางตามกรรมพันธุ์น้อยกว่าบริเวณอื่นๆ นั่นเอง
ข้อดี ข้อจำกัด ของการปลูกผม FUE
ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการปลูกผม FUE ผู้ที่สนใจควรทำความเข้าใจถึงข้อดีและข้อจำกัดของวิธีการนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
ข้อดีของการปลูกผม FUE
- แผลเล็ก ทั้งหัวเจาะและ Implanter pen มีขนาดเล็กกว่า 1 มม. ทำให้แผลที่เกิดขึ้นมีขนาดที่เล็กมากๆ จนถ้าหากไม่สังเกตใกล้ๆ ก็อาจจะไม่เห็นแผลเลยด้วยซ้ำ
- ไม่ต้องพักฟื้น ด้วยแผลที่มีขนาดเล็กมากๆ ทำให้หลังการปลูกผม คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำได้ทันทีโดยไม่ต้องนอนพักฟื้นที่บ้านหรือคลินิกเลย
- เจ็บน้อย จากประสบการณ์ของคนไข้ที่เข้ารับการปลูกผมที่คลินิก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เจ็บเลย อีกทั้งแผลตรงบริเวณ Donor area ที่เจาะเอากราฟท์ผมออกมา ยังสามารถนอนทับได้และสระผมได้ตามปกติทุกวันอีกด้วย
- เสียเลือดน้อย หากเทียบกันกับวิธีแบบ FUT ที่จะต้องมีการตัดเอาหนังศีรษะของคนไข้ออกมา 15-20 ซม. แล้ว วิธี FUE ถือว่าเสียเลือดน้อยกว่ามากๆ เพราะแผลมีขนาดที่เล็กกว่า ทำให้ร่างกายสามารถสมานแผลได้อย่างรวดเร็วกว่าหลายเท่าตัว
ข้อจำกัดของการปลูกผม FUE
- ใช้เวลานาน: การเก็บรากผมทีละกราฟท์ทำให้ใช้เวลามากกว่าการปลูกผมแบบ FUT
- ความเสี่ยงของการสูญเสียรากผม: หากไม่ได้ทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ รากผมที่เก็บมาอาจเสียหายได้
ขั้นตอนการปลูกผม FUE
หลังจากเข้าพบคุณหมอเพื่อประเมินจำนวนกราฟท์ผมที่ต้องการปลูกกันแน่นอนแล้ว ขั้นตอนในการปลูกผมแบบ FUE จะดำเนินการ ดังนี้
1. ออกแบบแนวผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
แพทย์ทำการออกแบบแนวไรผมให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ตามความต้องการของคนไข้ จากนั้นทำการโกนผมที่บริเวณด้านหลัง ขนาดประมาณ 1 ฝ่ามือของคนไข้ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเจาะเอากราฟท์ผมออกมา
2. เจาะกราฟท์ผม
หลังจากฉีดยาชาเรียบร้อย แพทย์จะเจาะกราฟท์ผม ด้วยเครื่องเจาะที่มีหัวเจาะขนาดเล็กกว่า 1 มม. ของ WAW FUE SYSTEM รุ่นไฮบริด ที่รอยแผลเจาะมีขนาดที่เล็ก สมานตัวได้ไว และเสียเลือดน้อยกว่าวิธีอื่น ยังสามารถกำหนดทิศทางการเจาะได้ตามทิศทางของเส้นผมคนไข้
3. คัดแยกรากผมที่มีความแข็งแรง
รากผมที่เจาะออกมาจะถูกคัดแยกและจัดกลุ่มให้เหมาะสม โดยแยกตามจำนวนเส้นผม 1 เส้น 2 เส้น และ 3 เส้น เป็นต้น ก่อนจะนำไปแช่ในน้ำยาแช่กราฟท์ที่ดีที่สุดเพื่อเตรียมสำหรับขั้นตอนการปลูกผมต่อไป
4. ขั้นตอนการปลูกผม
ในขั้นตอนของการปลูกผม คุณหมอจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Implanter pen ปลูกให้กับคนไข้ทุกเคสแทนการใช้คีมปลายแหลมแบบเก่า โดยข้อดีของการใช้ Implanter pen นั้น จะช่วยลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบรากผมลงได้ ทำให้อัตรารอดของกราฟท์ผมสูงกว่า 95%
การดูแลก่อน หลัง การปลูกผม FUE
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ผู้ที่ตัดสินใจทำ FUE ควรเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลก่อนและหลังการปลูกผมอย่างเคร่งครัด ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำที่สำคัญในการดูแลก่อนและหลังการปลูกผม FUE
ก่อนการปลูกผม FUE
- พักผ่อนให้เพียงพอและทานอาหารได้ตามปกติ
- งดการใช้ยาที่อาจทำให้เลือดออกง่ายก่อนการปลูกผม FUE 2 สัปดาห์ เช่น แอสไพริน หรือวิตามินอี
- สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย แนะนำให้สวมเสื้อสีเข้มที่มีกระดุมหน้า
หลังการปลูกผม FUE
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ปลูกผมในช่วง 2 สัปดาห์แรก
- ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ยกเว้นการว่ายน้ำและซาวน่าให้งดไปก่อน 2 เดือน
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดเป็นเวลานานในช่วง 3 เดือนแรก
ปลูกผม FUE เหมาะกับใคร
การปลูกผม FUE (Follicular Unit Excision) เป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีดังต่อไปนี้:
- ผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน: ผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านทั้งจากพันธุกรรมหรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ผมหลุดร่วง การปลูกผม FUE เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความหนาของเส้นผมและคืนความมั่นใจให้กับผู้ที่ประสบปัญหานี้ได้
- ผู้ที่ไม่ต้องการมีแผลเป็นใหญ่: เนื่องจาก FUE ไม่มีการตัดแถบผิวหนังออกจากศีรษะ แผลที่เกิดขึ้นจึงมีขนาดเล็กและซ่อนอยู่ในผมที่งอกขึ้นใหม่ ซึ่งแตกต่างจากวิธี FUT ที่อาจทิ้งรอยแผลเป็นยาว
- ผู้ที่มีบริเวณที่เก็บรากผมเพียงพอ: ผู้ที่มีผมบริเวณท้ายทอยเพียงพอต่อการเจาะรากผมเพื่อนำมาปลูก
- ผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นนาน: เนื่องจากเป็นวิธีที่เจ็บน้อย การปลูกผม FUE จึงไม่ต้องการการพักฟื้นนาน คนไข้สามารถกลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
ผลข้างเคียงของการปลูกผม FUE
- อาการชาบริเวณที่ปลูกผม อาจมีอาการชาเล็กน้อยในบริเวณที่ปลูกผม ซึ่งจะค่อยๆ หายไปเอง
- อาการคัน หลังปลูกผม FUE ไปแล้วในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ระหว่างที่แผลแห้งและตกสะเก็ดอาจทำให้เกิดอาการคันได้ทั้งบริเวณด้านหลังศีรษะและบริเวณที่ปลูกผม ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงตามปกติของการปลูกผม
- เป็นสิว หลังปลูกผม 1-3 เดือนแรกอาจเกิดสิวขึ้นได้ทั้งบริเวณที่ปลูกผมและด้านหลังศีรษะ สามารถปล่อยให้หายเอง กดออก หรือใช้ยาแต้มสิวทา ก็ได้เช่นกัน
ผลลัพธ์การปลูกผม FUE
ผลลัพธ์การปลูกผม FUE ที่ Hairsmith Clinic เน้นออกแบบแนวผมให้ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านอย่างมาก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผม FUE
ผู้ที่สนใจเข้ารับการปลูกผม FUE มักมีคำถามและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับกระบวนการ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และการดูแลหลังการปลูกผม เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผม FUE พร้อมคำตอบที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าใจกระบวนการมากขึ้น ก่อนตัดสินใจเข้ารับการปลูกผม
ปลูกผม FUE เจ็บไหม
ในการปลูกผม FUE เป็นการใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวด คนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยในช่วงที่ฉีดยาชา และจะไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการผ่าตัด
ผลลัพธ์ปลูกผม FUE จะเห็นได้เมื่อไหร่
ผลลัพธ์เต็มที่ของการปลูกผม FUE จะเห็นได้หลังจาก 6-12 เดือน เมื่อผมที่ปลูกเริ่มงอกและหนาอย่างเต็มที่
ต้องทำการปลูกผมหลายครั้งไหม?
การปลูกผม FUE ส่วนใหญ่จะทำครั้งเดียวก็เพียงพอ แต่คนไข้บางรายอาจต้องการปลูกผมเพิ่มเติมบริเวณอื่นที่มีปัญหา
สรุป
การปลูกผมแบบ FUE เป็น 1 ใน 2 วิธีที่สมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRH) รับรอง โดยจะเป็นการปลูกผมที่คุณหมอจะทำการเจาะย้ายรากผมจาก Donor area ไปยังบริเวณที่คนไข้ต้องการ ซึ่งในขั้นตอนของการปลูกผม จะทำการปลูกโดยใช้เครื่องมือ Implanter pen ให้กับทุกเคสแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพื่อลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบรากผม ทำให้อัตราการรอดของกราฟท์ผมมีสูงกว่า 95% และยังเพื่อผลลัพธ์ที่ดีของคนไข้ทุกคน ที่จะมั่นใจได้ว่า ปลูกผมที่ Hairsmith Clinic จะได้ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้อย่างแน่นอน