ในยุคที่ความสวยงามและความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญ ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน กลายเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ฮอร์โมน หรือพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ ทั้งนี้ ปลูกผม FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพที่ช่วยให้ผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้กลับมามีผมที่หนาแน่นและดูเป็นธรรมชาติได้อีกครั้ง ในบทความนี้ หมอจะพาไปรู้จักกับวิธีการปลูกผม FUT อย่างละเอียด ตั้งแต่สาเหตุของผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ขั้นตอนการปลูกผม ผลลัพธ์ ข้อดี-ข้อจำกัด ใครเหมาะกับการปลูกผม FUT และข้อปฏิบัติก่อน-หลังการปลูกผม เพื่อให้คุณมีความเข้าใจและพร้อมในการตัดสินใจมากขึ้น
ปลูกผม FUT คืออะไร
ปลูกผม FUT (Follicular Unit Transplantation) หรือที่เรียกกันว่าการปลูกผมแบบ strip harvesting เป็นวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมมายาวนาน โดยจะทำการตัดแถบหนังศีรษะจากบริเวณที่มีเส้นผมหนาและแข็งแรง (Donor area) จากนั้นจะนำแถบหนังศีรษะนี้มาทำการตัดแบ่งกราฟท์ ที่เรียกว่า follicular units เพื่อนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ วิธีนี้มีข้อดีที่สามารถปลูกผมได้ในปริมาณมากในครั้งเดียว สำหรับแก้ปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน
สาเหตุของผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ที่อาจนำไปสู่การปลูกผม FUT
ปัญหา ผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านสามารถเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน ความเครียด การขาดสารอาหาร การดูแลสุขภาพหนังศีรษะไม่ดี หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด อย่างไรก็ตามสาเหตุหลักๆ ที่พบบ่อยคืออาการผมร่วงแบบกรรมพันธุ์ (androgenetic alopecia) ซึ่งเป็นอาการที่ทำให้ผมร่วงและบางลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและตรงกลางศีรษะ
ขั้นตอนการปลูกผม FUT ทำอย่างไร
- การทำความสะอาดและฉีดยาชา: ขั้นตอนเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการปลูกผมและการฉีดยาชาในบริเวณดังกล่าว
- การตัดแถบหนังศีรษะ: แพทย์จะตัดแถบหนังศีรษะจากบริเวณที่มีเส้นผมหนาและแข็งแรง เช่น บริเวณหลังศีรษะ
- การตัดแบ่งกราฟท์: แถบหนังศีรษะที่ถูกตัดออกมาจะถูกนำไปแบ่งออกเป็นกราฟท์เล็กๆ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์
- การปลูกผม: แพทย์จะนำกราฟท์ผมที่ได้ไปปลูกบริเวณที่ต้องการ โดยที่ Hairsmith Clinic ใช้ Implanter pen ในการปลูกผมทุกเคส เพื่อลดความเสียหายต่อกราฟท์ผม
ผลลัพธ์หลังการปลูกผม FUT
หลังจากการปลูกผม FUT คนไข้จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ของการปลูกผมในระยะเวลา 3-6 เดือน โดยเส้นผมใหม่จะเริ่มงอกและมีลักษณะที่แข็งแรงตามธรรมชาติ โดยผลลัพธ์ที่ได้จะมีความหนาแน่นและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดในระยะเวลา 12-18 เดือน
การปลูกผม FUT กับการปลูกผมแบบ FUE แตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างของการปลูกผมแบบ FUT และปลูกผมแบบ FUE คือวิธีการนำรากผมออกจากบริเวณด้านหลังศีรษะ แบบ FUE จะใช้วิธีการเจาะออกมาทีละรากทำให้มีแผลเป็นจุดเล็กๆ สำหรับแบบ FUT เป็นการตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาวๆ ซึ่งจะทำให้มีแผลเป็นยาวๆ หลังปลูกผม โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ปลูกผม FUE ได้ที่นี่!
ที่ Hairsmith Clinic ใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Implanter pen ในการปลูกผมสำหรับทั้ง FUT และ FUE เพื่อให้แพทย์สามารถปลูกผมได้เร็วขึ้นและช่วยลดความเสียหายของรากผม จึงส่งผลให้อัตราการรอดของรากผมสูงขึ้นไปด้วย
ข้อดี-ข้อจำกัด การปลูกผม FUT
ข้อดี
- สามารถปลูกผมได้ในปริมาณมากในครั้งเดียว
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมในบริเวณกว้าง
ข้อจำกัด
- มีแผลเป็นยาวๆ ที่บริเวณหลังศีรษะ จึงควรหลีกเลี่ยงการตัดผมสั้น
- ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเมื่อเทียบกับวิธี FUE
- อาจเกิดอาการปวดในบริเวณที่ตัดแถบหนังศีรษะ
ใครเหมาะกับการปลูกผม FUT
การปลูกผม FUT เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านจากพันธุกรรม โดยเฉพาะผู้ที่มีพื้นที่ที่ต้องการปลูกผมในปริมาณมาก นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นผมบริเวณหลังศีรษะแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นของหนังศีรษะ
ข้อปฏิบัติ ก่อน-หลัง การปลูกผม FUT
ก่อนการปลูกผม
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาและวิตามินที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า
- งดการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
- ทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ
หลังการปลูกผม
- แพทย์จะทำนัดให้มาตัดไหมบริเวณด้านหลังศีรษะ หลังปลูกผม 7 วัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือถูบริเวณที่ปลูกผม 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ เพื่อป้องกันการกระทบกับบริเวณที่ปลูกผม
- ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- พบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจสอบผลลัพธ์การปลูกผม
ปลูกผม FUT ราคาเท่าไหร่
ปลูกผม FUT ที่ Hairsmith Clinic ราคาเท่ากับการปลูกผมแบบ FUE ราคาปลูกผม FUT จะอยู่ที่กราฟท์ละ 80 บาท เมื่อปลูกขั้นต่ำ 1,000 กราฟท์ค่ะ แต่ถ้าปลูกน้อยกว่านั้น ราคาปลูกผม ก็จะอยู่ที่ 90 บาทต่อกราฟท์ โดยมีขั้นต่ำที่ 59,000 บาท ทั้งนี้ สามารถส่งรูปหรือจองคิวเพื่อพบคุณหมอเพื่อประเมินจำนวนกราฟท์เบื้องต้นได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สรุป
ปลูกผม FUT เป็นวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถปลูกผมในปริมาณมากในครั้งเดียว ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติและถาวร อย่างไรก็ตาม การปลูกผม FUT มีข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณา ผู้ที่สนใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและข้อมูลที่เหมาะสม ก่อนการตัดสินใจทำการปลูกผม