ปลูกผม เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาผมร่วงและหัวล้านที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมี 2 วิธีที่ใช้ในการปลูกผมถาวร ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพามาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการปลูกผมมีวิธีอะไรบ้าง ขั้นตอนการปลูกผม การเตรียมความพร้อมสำหรับการปลูกผม ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการปลูกผม มาติดตามกันค่ะ
ปลูกผม คืออะไร เทคนิคไหนเหมาะกับคุณ
ปลูกผม ปลูกผมถาวร หรือศัลยกรรมปลูกผม (Hair transplant) คือ การย้ายรากผมจากบริเวณเหนือกกหูและด้านหลังศีรษะ (Donor Area) มาปลูกในบริเวณที่ล้านและบาง เช่น แนวไรผมด้านหน้าศีรษะ หรือตรงกลางศีรษะ ซึ่งภายใน 6-12 เดือน เส้นผมก็จะงอกขึ้นมาใหม่เหมือนธรรมชาติและไม่ร่วงอีก
สาเหตุที่ใช้ผมจากบริเวณเหนือกกหูและด้านหลังศีรษะ (Donor Area) มาปลูก เป็นเพราะบริเวณดังกล่าวเป็นผมถาวรที่มีความแข็งแรง และไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT อันเป็นสาเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านของผู้ชาย
สาเหตุผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน
สาเหตุหลักของปัญหาผมร่วงและผมบาง มีดังนี้
- พันธุกรรม (Genetics) เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บางคนมีแนวโน้มเสี่ยงต่อการผมร่วงมากกว่าคนอื่น
- ฮอร์โมน (Hormones) การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนและฮอร์โมนเอสโตรเจน อาจนำไปสู่การร่วงของผมได้
- ความเครียด (Stress) ภาวะความเครียดเรื้อรังส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมและเส้นผมด้วย
- โรคต่างๆ (Diseases) โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคตับ โรคผิวหนังบางชนิด อาจทำให้เกิดผมร่วงได้
อาการที่อาจนำไปสู่การปลูกผม
- ผมร่วง (Hair Loss) เป็นภาวะที่มีการร่วงของผมมากกว่าปกติเกิน 100 เส้นต่อวัน หรือเกิน 200 เส้นในวันที่ไม่ได้สระผม
- ผมบาง (Thinning hair) ลักษณะของผมที่มีปริมาณน้อยลงและบางจนเห็นหนังศีรษะอย่างชัดเจน
- หัวล้าน (Baldness) เป็นภาวะที่เกิดจากการร่วงของเส้นผมอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดบริเวณล้านบนหนังศีรษะ
ปลูกผมถาวรมีกี่วิธี
การปลูกผมมี 2 วิธี ตามนิยามของสมาคมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) โดยแบ่งตามวิธีการนำผมออกจากบริเวณด้านหลังศีรษะ ดังต่อไปนี้
วิธีปลูกผม FUT (Follicular Unit Transplantation)
FUT เป็นเทคนิคที่ใช้การตัดหนังศีรษะที่มีเส้นผมออกมา จากนั้นนำมาคัดแยกเป็นกราฟท์ (Graft) เล็กๆ แล้วปลูกกลับเข้าไปในบริเวณที่ต้องการ วิธีนี้มีข้อดีคือสามารถปลูกผมได้จำนวนมากในครั้งเดียว แต่มีข้อจำกัดคืออาจมีแผลเป็นที่เห็นได้ชัดเจนในบริเวณที่ตัดหนังศีรษะ
วิธีปลูกผม FUE (Follicular Unit Excision)
FUE เป็นเทคนิคที่ไม่ต้องตัดหนังศีรษะ แต่ใช้การเจาะรากผมออกมาทีละราก จากนั้นนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ ข้อดีคือแผลเป็นจะมีขนาดเล็กมากและสามารถฟื้นตัวได้เร็ว แต่การปลูกผมด้วยวิธีนี้อาจใช้เวลานานและจำนวนกราฟท์ที่ปลูกได้ในครั้งเดียวอาจน้อยกว่า FUT
อ่านบทความเต็มๆ ปลูกผม FUE
นอกจากนี้ที่ Hairsmith Clinic ยังมีบริการปลูกผมแบบไม่โกน Non-shaven FUE ซึ่งวิธีนี้เหมือนกับการปลูกผม FUE แบบปกติทุกประการ แตกต่างกันตรงที่ไม่มีการโกนผมบริเวณด้านหลังศีรษะ เหมาะทำหรับผู้ที่ไม่อยากโกนผมหรือกังวลเรื่องทรงผมหลังปลูกผม
การเตรียมตัวก่อนปลูกผม
เนื่องจากการปลูกผมเป็นการผ่าตัดเล็ก การเตรียมตัวจึงไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน โดยมีวิธีการเตรียมตัว ดังนี้
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องทานประจำ จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ก่อน
- งดยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดก่อนเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไมน็อกซิดิล (Minoxidil), น้ำมันตับปลา (Fish oil), วิตามินอี (Vitamin E) เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ไม่จำเป็นต้องงดอาหาร
- เเนะนำให้สวมเสื้อสีเข้มที่มีกระดุมหน้า เพื่อความสะดวกในการสวมใส่หลังการปลูกผม
ขั้นตอนการปลูกผม
การปลูกผมมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้ เริ่มจากการวางแผนและออกแบบแนวไรผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะทำการปลูกผม ต่อมาแพทย์จะทำการเก็บรากผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะ (Donor Area) โดยใช้เทคนิค FUT หรือ FUE ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือก หลังจากนั้นจะแยกกราฟท์ (Graft) แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ โดยแพทย์จะทำการเจาะรูเล็กๆ เพื่อฝังรากผมลงไป ทั้งนี้ ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 4-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟท์ที่ปลูกและเทคนิคที่ใช้ค่ะ
การดูแลหลังปลูกผม
- งดสระผมเองใน 24 ชั่วโมงแรกหลังปลูกผม
- วันรุ่งขึ้นหลังปลูกผมเข้ามาสระผมที่คลินิกฯ เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของแผล (เจ้าหน้าที่จะสอนวิธีการสระผมในวันนี้ให้ด้วย)
- งดการแกะหรือดึงสะเก็ดออก สะเก็ดเหล่านี้จะเริ่มหลุดไปเองหลังจากวันที่ 15 เป็นต้นไป
- งดออกกําลังกายที่มีการปะทะ ห้ามห้อยศีรษะลง ห้ามยกนํ้าหนัก หรือออกกําลังกายใดๆ จนเหงื่อออกมาก ยกเว้นการเดิน หลังจากปลูกผมครบ 14 วัน สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ ยกเว้นว่ายนํ้าและซาวน่าที่ต้องรอจนครบ 30 วันก่อน
- หากต้องการยืดผม ย้อมผม ดัดผม แนะนําให้ทําหลังปลูกผมไปแล้ว 2 เดือน
- หลีกเลี่ยงการตากแดดนานๆ จนผิวไหม้เป็นเวลา 3 เดือน แนะนําให้สวมหมวกเมื่อต้องอยู่กลางแจ้งนานกว่า 10 นาที
และสามารถสระผมได้ทุกวัน แต่ควรเป็นไปตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่คลินิก ตลอดจนใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ก็สามารถสระผมได้ตามปกติ และใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องระวังอะไรมากแล้ว รวมถึงการใช้เซรั่มบำรุงหนังศีรษะต่างๆ ก็สามารถใช้ได้หลังจากปลูกผม 2 สัปดาห์เช่นกัน
การพักฟื้นหลังปลูกผม
ระยะเวลาพักฟื้น
การปลูกผมพักฟื้นไม่นาน เพราะศัลยกรรมปลูกผมถือว่าเป็นผ่าตัดเล็ก สำหรับเทคนิค FUE นั้นแผลจะมีขนาดเล็กกว่า 1 มม. ไม่เกิน 3 วันแผลจะเริ่มแห้งและหายสนิท คนไข้สามารถไปทำงานวันถัดไปได้เลย ในขณะที่เทคนิค FUT นั้นจะต้องมีการนัดให้คนไข้กลับมาตัดไหมในอีก 10 วันหลังผ่าตัดค่ะ
อาการหลังปลูกผม
การปลูกผมจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยมาก ซึ่งไม่ได้เป็นที่น่ากังวล ที่พบได้ทั่วไปก็มักจะเป็นอาการบวม อาการปวดเล็กน้อย รอยแดง ภาวะผมร่วงชั่วคราว (Shock Loss) หรือเส้นผมเปลี่ยนสี เป็นต้น อย่างไรก็ดี ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เป็นเรื่องชั่วคราวและสามารถหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง
ทั้งนี้ การเลือกคลินิกปลูกผมที่มีมาตรฐานจะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้ ในทางตรงกันข้าม หากเลือกผู้ให้บริการที่ไม่มีมาตรฐานหรือไม่มีประสบการณ์ ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน อย่างเลวร้ายที่สุดคือติดเชื้อรุนแรงจนเสียชีวิต ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศอินเดีย จะเห็นได้ว่าการเลือกคลินิกปลูกผมที่ดีจึงสำคัญมาก
ผลลัพธ์การปลูกผม นานไหมกว่าผมจะขึ้น
- ช่วง 2 สัปดาห์หลังปลูกผม เป็นระยะที่รากผมฝังตัวเรียบร้อยแล้ว สะเก็ดแผลตรงบริเวณที่ปลูกหลุดหมดแล้ว
- ช่วง 3 เดือนหลังปลูกผม ผมที่ปลูกจะเริ่มขึ้นเป็นไรผมเส้นบางๆ ประมาณ 10-15% ทำให้ยังไม่เห็นแนวไรผมที่ชัดเจนในระยะ 3 เดือนแรกนี้
- ช่วง 6 เดือนหลังปลูกผม ผมเส้นหนาขึ้น เราจะเริ่มเห็นแนวไรผมได้อย่างชัดเจน ผลลัพธ์ของผมที่ปลูกนั้นจะขึ้นมา 40-50% และขึ้นแบบทั่วๆ ของบริเวณที่ปลูกผม
- ช่วง 12-18 เดือนหลังปลูกผม เป็นระยะที่เห็นผลลัพธ์สุดท้ายของการปลูกผม ได้แนวผมใหม่ที่ชัดเจน ผมเส้นหนาอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์การปลูกผมที่ Hairsmith Clinic ยืนหนึ่งเรื่องความเป็นธรรมชาติ ออกแบบแนวผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด
ปลูกผม ราคาเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?
ค่าใช้จ่ายในการปลูกผมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ จำนวนกราฟท์ที่ปลูก ซึ่งราคาปลูกผมขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก ราคาปลูกผมอาจจะดูสูงแต่หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ที่ Hairsmith Clinic ราคาปลูกผมเริ่มต้นที่ 49,000 บาท ราคาต่อกราฟท์จะอยู่ที่ 75 บาท ทั้งวิธีปลูกผม FUT และ FUE สำหรับราคาปลูกผมแบบไม่โกน Non-shaven FUE อยู่ที่กราฟท์ละ 140 บาท ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นราคาสุทธิ ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติมแล้ว
ตัวอย่าง ตารางค่าใช้จ่ายปลูกผม
จำนวนกราฟท์ | ค่าใช้จ่ายปลูกผม |
1,000 | 75,000 บาท |
1,500 | 112,500 บาท |
2,000 | 150,000 บาท |
2,500 | 187,500 บาท |
3,000 | 225,000 บาท |
4,000 | 300,000 บาท |
เลือกคลินิกปลูกผม ที่ไหนดี
การเลือกคลินิกปลูกผม ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีบริการติดตามผลอย่าสม่ำเสมอ เพราะหากปลูกผมกับคลินิกที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่ได้ปลูกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจเสี่ยงต่อการปลูกผมไม่ขึ้น รวมถึงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้นได้ เช่น การติดเชื้อ เป็นต้น
Hairsmith Clinic คลินิกเฉพาะทางศัลยกรรมปลูกผม
Hairsmith Clinic เป็นคลินิกเฉพาะด้านการปลูกผม โดยมีแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อีกทั้งยังการันตีด้วยรางวัลด้านบริการยอดเยี่ยมถึง 4 ปีซ้อน WhatClinic Patient Service Awards จากสหราชอาณาจักร
ปลูกผมกับศัลยแพทย์ พญ.พรีมา ทศบวร
แพทย์ด้านการปลูกผมควรมีประสบการณ์และได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีการศึกษาและฝึกฝนในเทคนิคต่างๆ ที่ทันสมัยเพื่อให้การปลูกผมมีประสิทธิภาพสูงสุด
พญ.พรีมา ทศบวร ถือเป็นศัลยแพทย์ปลูกผมที่ได้รับการยอมรับในวงการ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะหนึ่งในผู้บุกเบิก และผู้ริเริ่มนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้กับการปลูกผมในประเทศไทย นอกจากนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในศัลยแพทย์คนไทย 8 คนแรกที่ได้รับรองจาก American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) เรียกได้ว่า พญ.พรีมา คือหนึ่งในผู้ที่กำหนดทิศทางอุตสาหกรรมปลูกผมในบ้านเราเลยก็ว่าได้
รีวิวปลูกผม ที่ Hairsmith Clinic
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ปลูกผม
หลังปลูกผม ผมจะยาวเร็วเท่าผมปกติไหม?
ผมที่ปลูกจะเริ่มงอกและยาวขึ้นเหมือนผมปกติหลังจากผ่านไป 3-4 เดือน โดยจะมีอัตราการเจริญเติบโตประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตปกติของเส้นผม
ปลูกผมแล้วทำสีผม ยืดผม ดัดผมได้ไหม?
สามารถทำได้ แต่ควรรอให้ผ่านไปอย่างน้อย 2 เดือนหลังการปลูกผม เพื่อให้รากผมที่ปลูกใหม่แข็งแรงเพียงพอ และควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการปลูกผมก่อนเสมอ
หลังปลูกผมใส่หมวกกันน็อคได้ตามปกติไหม?
ควรหลีกเลี่ยงการใส่หมวกกันน็อคในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังปลูกผม เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนต่อรากผมที่เพิ่งปลูก หลังจากนั้นสามารถใส่ได้ตามปกติ แต่ควรระมัดระวังในการสวมใส่
ผมยังจะร่วงอีกไหมในอนาคต?
ผมที่ปลูกใหม่จะไม่ร่วง เนื่องจากเป็นผมจากบริเวณที่ทนต่อฮอร์โมน DHT อย่างไรก็ตาม ผมเดิมในบริเวณอื่นๆ อาจยังคงร่วงได้ตามปกติ ดังนั้นการดูแลรักษาและใช้ยารักษาผมร่วงอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ไม่พอใจผลลัพธ์ปลูกผม สามารถปรับแก้ได้หรือไม่?
หากไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการปลูกผมเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม ควรรอให้ครบ 12-18 เดือนหลังการปลูกผมครั้งแรก เพื่อให้เห็นผลลัพธ์สุดท้ายก่อนตัดสินใจทำการปรับแก้
สรุป
การปลูกผมเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผมร่วงและหัวล้าน ซึ่งต้องการการดูแลและการเตรียมตัวที่เหมาะสม การเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้รับมีความเป็นธรรมชาติและน่าพึงพอใจมากที่สุด