ปัญหาหัวล้านจากกรรมพันธุ์
แม้ว่าภาวะหัวล้านส่วนใหญ่ จะมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ในครอบครัว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกๆ คนในครอบครัวจะหัวล้านนะคะ และภาวะหัวล้านนั้น จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย แต่ต้องยอมรับว่า มีผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่เป็นได้มากพอสมควรเลยทีเดียว
หัวล้านกรรมพันธุ์ … เกิดจากอะไร
หัวล้านจากกรรมพันธุ์ แน่นอนว่าสาเหตุต้องเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่อาจจะเป็นแบบยีนเด่นบนโครโมโซมร่างกาย (Autosomal dominance) หรือการถ่ายทอดแบบหลายปัจจัยก็ได้ ซึ่งหากสาเหตุที่มาจากการเป็นแบบหลายปัจจัยนี้ จะเกิดจากการทำงานร่วมกันของหลายๆ ยีน ร่วมกับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสุขภาพ การใช้ยาบางตัว หรือความเครียดนั่นเอง โดยภาวะหัวล้านกรรมพันธุ์มักเกิดขึ้นในเพศชายเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าผู้หญิงจะไม่ล้านนะคะ แค่โอกาสเกิดภาวะมีต่ำกว่าเฉยๆ ซึ่งภาวะหัวล้านจากกรรมพันธุ์ สามารถรักษาได้ด้วยการปลูกผมค่ะ
ปลูกผม FUE หรือ FUT คือทางออกของคนหัวล้าน

จากการปลูกผม 2 วิธี วิธีที่นิยมกันมากในเคสหัวล้านกรรมพันธุ์คือ การปลูกผม FUE (Follicular Unit Excision) การปลูกผม FUE คือการที่หมอ จะนำเจาะเอารากผมจากบริเวณที่มีความหนาแน่นของผมมาก (Donor area) หรือคือบริเวณด้านหลังของศีรษะ และด้านข้างเหนือกกหูของคนไข้ มาทำการปลูกในบริเวณที่ต้องการ ข้อดีของการปลูก FUE คือ รอยแผลจากการเจาะกราฟท์ บริเวณ Donor area จะมีขนาดเล็กมากๆ ไม่เกิน 1 มิลลิเมตร อีกทั้งระยะเวลาในการพักฟื้นหลังผ่าตัดก็สั้นกว่าวิธี FUT พอสมควร แต่วิธีปลูกผม FUE นั้น เหมาะกับเคสที่ไม่ใหญ่นัก หรือไม่เกิน 3,500 กราฟท์ต่อหนึ่งเซสชั่น ซึ่งถ้าหลังจากการปลูกผมครั้งแรกผ่านไปแล้ว คนไข้ยังต้องการปลูกผมเพิ่มใหม่ ก็สามารถทำการปลูกผม FUE ได้อีก 1,500 – 2,000 กราฟท์ ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผมบริเวณ Donor Area ของแต่ละคนด้วยนะคะ เพราะต่อหนึ่งศีรษะ หมอจะไม่แนะนำให้นำผมออกมาเกิน 5,000 – 6,000 กราฟท์ค่ะเนื่องจากผมด้านหลังจะดูบางจนเกินไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะเลือกปลูกผมด้วยวิธีไหน ต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ หากพิจารณาว่าในอนาคตอาจต้องมีการปลูกผมเพิ่มเรื่อยๆ เพราะที่บ้านมีกรรมพันธุ์หัวล้าน การปลูกผมด้วยวิธี FUT ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีค่ะ
เห็นมั้ยคะว่าหัวล้านกรรมพันธุ์สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกผม ยิ่งถ้าได้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และได้รับการรับรองระดับสากลโดย American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) จากสหรัฐอเมริกาด้วยแล้ว การปลูกผม จะไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลใจอีกต่อไปเลยล่ะค่ะ