ปลูกผมต้องพักฟื้นกี่วัน

ปลูกผมต้องพักฟื้นกี่วัน_1

ช่วงนี้คนหันมาให้ความสนใจในการปลูกผมกันค่อนข้างเยอะกว่าแต่ก่อน คนไข้หลายคนจึงมักมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการปลูกผม ขั้นตอนต่างๆ รวมไปถึงข้อปฏิบัติที่พึงกระทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการปลูกผม คำถามที่หมอหยิบยกมาวันนี้ก็เช่นกัน นั่นก็คือ ปลูกผมต้องพักฟื้นกี่วัน เนื่องจากมีคนไข้จำนวนไม่น้อยเลย ที่กังวลในเรื่องของการพักฟื้นเพราะไม่อยากให้กระทบงาน หรือต้องลางานนานๆ วันนี้เรามาดูกันค่ะ ว่าการพักฟื้นที่ว่า จะนานเหมือนที่คิดหรือเปล่า

ปลูกผมแบบ FUT พักฟื้นกี่วัน

การปลูกผมแบบ FUT หรือ Follicular Unit Transplantation เป็นการปลูกผมแบบดั้งเดิม ที่ทางแพทย์จะต้องผ่าเอาหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยออกมาเพื่อเก็บกราฟท์ผม จากนั้นจึงทำการเย็บรอยแผลให้ประกบเข้าด้วยกัน ซึ่งวิธีนี้ เหมาะกับเคสที่ปลูกด้วยจำนวนกราฟท์เยอะ ทำให้มีแผลเย็บขนาดประมาณ 15-30 เซนติเมตร และด้วยรอยแผลนี้เอง ที่จะทำให้คนไข้จะรู้สึกเจ็บแผลเล็กน้อยถึงปานกลาง จึงต้องพักฟื้นหลังการผ่าตัดประมาณ 3-5 วันค่ะ

ปลูกผมแบบ FUE พักฟื้นกี่วัน

การปลูกผมแบบ FUE หรือ Follicular Unit Extration เป็นการปลูกผมแบบที่ใหม่กว่าแบบ FUT ซึ่งจะแตกต่างกันตรงที่ เราจะไม่ใช้การผ่าเอาผิวหนังออกมาทั้งเส้น แต่จะเจาะเอามาแค่กราฟท์ผมเท่านั้น เหมาะกับเคสที่มีจำนวนกราฟท์ไม่มากหรือพื้นที่ล้านน้อย โดยแผลที่เกิดจากการเจาะนั้น มีขนาดที่เล็กเพียง 1 มิลลิเมตรหรือเล็กกว่านั้น วิธีนี้คนไข้ไม่ต้องพักฟื้นค่ะ เพราะแผลเล็กมากและใช้เวลา 1-2 วันแผลด้านหลังก็จะเริ่มแห้งแล้ว โดยคนไข้ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพื่อมาปลูกผมกับหมอมักจะบินมาอยู่เพียง 3 วัน 2 คืนเท่านั้น หลังจากนั้นจะบินกลับไปทำงานเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วยนะคะ ใครใคร่พักพัก ใครใคร่ไม่พักก็ตามสบายเลยค่ะ

ปลูกผมต้องพักฟื้นกี่วัน_2

หลังปลูกผมจำเป็นต้องพักฟื้นมั้ย

การปลูกผมไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ และไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอย่างที่คิด การพักฟื้นหลังการปลูกผมนั้น ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้แต่ละคน ใครมีเวลาพักแล้วอยากพักก็ได้ หรือใครที่โอเค ไม่รู้สึกเจ็บเลยค่ะ/ครับหมอ ขอไม่พักแล้วไปทำงานได้มั้ย คำตอบก็คือได้เหมือนกันค่ะ เอาที่คนไข้สะดวกเลย แต่ในส่วนของการปลูกผมแบบ FUT นั้น อาจจะรู้สึกเจ็บมากกว่าแบบ FUE นิดหน่อยเพราะมีแผลเย็บที่ด้านหลัง ก็อาจจะพักสักหน่อย เพื่อให้แผลสมานกันก่อนก็ดีค่ะ

ข้อดีของการพักฟื้นหลังปลูกผม

อย่างที่บอกไปว่า การพักฟื้น คือการปล่อยให้ร่างกายทำการรักษาและสมานตัวเอง ข้อดีจึงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเป็นผลดีทั้งต่อตัวคนไข้และแผลปลูกผมอีกด้วย ทั้งนี้เพราะกราฟท์ผมที่เราได้ทำการปลูกเข้าไปช่วง 3-4 วันแรกนั้นยังคงอ่อนแออยู่ การที่เราไม่ให้เวลาร่างกายในการพักเลย อาจเป็นการรบกวนกราฟท์ผมที่เพิ่งปลูกไป ซึ่งอาจจะทำให้กราฟท์ผมหลุดออกมาได้ค่ะ ทีนี้จากที่ปลูกผมไปตอนแรก ก็แทบจะกลายเป็นโมฆะเลยนะคะ

สรุป

การพักฟื้นหลังปลูกผมนั้น ใช้ระยะเวลาต่างกันออกไปตามแต่วิธีที่เราใช้ปลูกผม วิธีการปลูกผมแบบ FUT จะมีรอยแผลที่ใหญ่กว่า ทำให้ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นอยู่ที่ 3-5 วัน ในขณะเดียวกันนั้น หากเราใช้วิธีการปลูกผมแบบ FUE การพักฟื้นก็แทบจะไม่จำเป็น เพราะแผลที่ผ่าตัดนั้นมีขนาดที่เล็กกว่ามาก จึงทำให้แผลหายได้เร็วกว่า ทั้งนี้ การพักฟื้นหลังการปลูกผม ถือเป็นสิ่งที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนไข้เองด้วย นั่นก็พราะการปลูกผมนั้น ไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่หรือเรื่องที่น่ากลัวค่ะ

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผมร่วงเกิดจากอะไร
บทความ
Prima Tossaborvorn

ผมร่วง เกิดจากอะไร มารู้จักสาเหตุและวิธีแก้ปัญหา

ปัญหา ผมร่วง เกิดจากอะไร? ไขข้อสงสัยสาเหตุผมร่วง พร้อมแนะนำวิธีรักษา เคล็ดลับป้องกันผมร่วง จากผู้เชี่ยวชาญ ผมบาง ผมร่วงเยอะมาก ต้องอ่าน

growth factor
บทความ
Prima Tossaborvorn

growth factor ที่มีใน PRP คืออะไร ช่วยเติมสารอาหารให้รากผมแข็งแรง

growth factor เป็นเหมือนปัจจัยสำคัญในการบำรุงเส้นผมและรากผมของเราให้สุขภาพดีขึ้น แล้ว growth factor ที่ว่าคืออะไร สามารถช่วยทำให้งอกหนาขึ้นมาโดยไม่ต้องปลูกผมได้หรือไม่ หรือมีข้อจำกัดอะไรในการทำ PRP หรือไม่ บทความนี้จะช่วยอธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ทอผมคืออะไร
บทความ
Prima Tossaborvorn

ทอผมคืออะไร ทางรอดของคนผมบาง หัวล้าน จริงหรือ

บทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักเกี่ยวกับการ ทอผม สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง หัวล้าน การทอผมคืออะไร มีวิธีทำอย่างไร ช่วยแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่

WhatClinic 4 ปีซ้อน
ข่าวสาร
Prima Tossaborvorn

ตอกย้ำความสำเร็จกับรางวัล WhatClinic Service Awards 4 ปีซ้อน

ความมุ่งมั่นและความตั้งใจในการให้บริการดีที่สุดทุกด้าน ทำให้คนไข้ชาวต่างชาติไว้วางใจและรีวิวความประทับใจในบริการของ Hairsmith Clinic ทำให้เราได้รับรางวัลด้านบริการยอดเยี่ยมติดต่อกันถึง 4 ปีซ้อน จึงเกิดการบอกต่ออย่างแพร่หลาย ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่ไว้วางใจในผลลัพธ์และบริการของทางคลินิก