ยาปลูกผม
ถ้าพูดถึงภาวะผมร่วงผมบาง เมื่อเกิดกับใครต่างก็ต้องหนักใจกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเกิดขึ้นในผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย สำหรับปัญหาผมร่วงผมบางในผู้หญิงจะมีความซับซ้อนมากกว่าในผู้ชายและเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยถึงสาเหตุและแนวทางการรักษาอย่างถูกต้อง ส่วนภาวะผมร่วงผมบางในผู้ชายนั้นส่วนใหญ่จะเกิดจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมน ถึงแม้เราจะรู้ดีว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ก็คงไม่มีใครสบายใจกับเรื่องธรรมชาติแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะมันบั่นทอนความมั่นใจให้กับตัวเราอย่างมหาศาล ดังนั้นในวันนี้หมอจะพูดถึง หนึ่งในแนวทางการรักษาผมร่วงผมบางด้วยการกินยา หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่ายาปลูกผมนั่นเอง
โดยปกติผมของคนเรามีวงจรที่ต้องหลุดร่วงตามธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าในแต่ละวันผมร่วงไม่เกิน 100 เส้นก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ไม่ต้องกังวลใจไป แต่ถ้าหากว่ามากกว่านั้นก็อาจมาจากกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมนได้ เพราะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับฮอร์โมนที่ชื่อ Dihydrotestosterone หรือเรียกสั้นๆ ว่า DHT กันก่อน เจ้าฮอร์โมนตัวนี้คือสาเหตุของภาวะผมร่วงผมบางที่เกิดจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมน โดยจะไปจับกับตัวรับที่เซลล์รากผม แล้วเร่งวงจรของผมทำให้ผมเส้นเล็กลงและหลุดร่วงเร็วกว่าที่ควรจะเป็นกลายเป็นภาวะผมร่วงผมบาง คราวนี้เรามาลองนึกภาพต่อกันว่าเมื่อเซลล์รากผมถูกเร่งวงจรแล้วร่วงไปเรื่อยๆ จนครบโควต้าและเซลล์ฝ่อหายไป พื้นที่นั้นๆ ก็จะไม่มีผมงอกขึ้นมาอีกกลายเป็นภาวะศีรษะล้านในที่สุด
แล้วยาปลูกผมเข้ามามีบทบาทอย่างไรกับเรื่องนี้กันล่ะ หลายๆ คนคงเกิดคำถามว่ายาปลูกผมเวิร์กจริงมั้ย ก็ต้องตอบว่าแล้วแต่กรณี สำหรับในพื้นที่ที่ยังคงมีเซลล์รากผมอยู่นั้น ยาปลูกผมจะไปยับยั้งการผลิตฮอร์โมน DHT เมื่อปริมาณของ DHT ลดลง ผมที่เส้นเล็กลงก็จะกลับมาเป็นเส้นใหญ่ตามเดิม ช่วยยับยั้งไม่ให้ผมร่วง และทำให้เส้นผมอยู่กับเราได้นานขึ้น เรียกว่าเป็นการจัดการที่ต้นเหตุนั่นเอง
คำถามต่อมาก็คือ ต้องทานไปนานแค่ไหน และมีผลอะไรกับร่างกายหรือเปล่า คำตอบก็คือควรทานยาปลูกผมนานตราบเท่าที่เรายังกังวลเรื่องผมร่วงผมบาง เพราะต้องเข้าใจก่อนว่าตามกลไกธรรมชาตินั้น ร่างกายเราผลิตเจ้า DHT ขึ้นมาทุกวัน ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่ได้ทานยา DHT ก็ยังทำงานของมันตามเดิม ผมก็จะกลับมาร่วงอีก แต่หากเมื่อเราอายุมากขึ้นและเลิกกังวลเรื่องผมร่วงผมบางแล้วก็สามารถหยุดทานยาได้เช่นกัน
ยาปลูกผมมีผลข้างเคียงมั้ย?
ขึ้นชื่อว่ายาแน่นอนว่าอาจมีผลกับร่างกายได้ อาการข้างเคียงที่คุณผู้ชายมักกังวลก็คือเรื่องของสมรรถภาพทางเพศที่อาจลดลง แต่ในความเป็นจริงแล้วมีเพียง 2% ของผู้ที่ทานยาเท่านั้นที่จะได้รับผลข้างเคียงในเรื่องนี้ ส่วนในแง่ของผลต่อตับก็ถือว่าน้อยมากและยังไม่มีรายงานเรื่องความเป็นพิษต่อตับ แต่ทั้งนี้ภาวะสุขภาพของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยก็สามารถตรวจร่างกายเช็คค่าตับเป็นระยะได้ อย่างไรก็ตามการทานยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของแพทย์ ไม่ควรไปซื้อยามาทานเองนะคะ