เผย 10 เคล็ดลับ บำรุงผม ให้ผมเสียกลายเป็นผมสวย

เผย 10 เคล็ดลับบำรุงผมเสียให้กลายเป็นผมสวย_1

สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติเลยก็ว่าได้นั่นก็คือปัญหาเรื่องเส้นผม ที่นอกจากจะต้องคอยระวังไม่ให้เกิดรังแคหรือปัญหาหนังศีรษะแล้ว ยังต้องมาเผชิญกับสภาพผมเสียชี้ฟู ที่ไม่ว่าจะลูบจะหวียังไง ผมก็ยังคงชี้โด่ชี้เด่ดูสุขภาพไม่ดี ดูเป็นผมเสียไร้น้ำหนักอยู่ตลอดเวลา จนต้องหันไปพึ่งพาเครื่องหนีบผมบ้าง การยืดผมถาวรบ้าง ซึ่งวิธีการเหล่านั้นก็ยิ่งทำให้ปัญหาผมเสียยิ่งรุนแรงมากขึ้น บทความในวันนี้เราจะมาพูดกันถึงวิธี บำรุงผม ให้ผมเสียเปลี่ยนเป็นผมสวย โดยไม่ต้องทำร้ายผมกันค่ะ

ก่อนที่เราจะรักษาผมเสีย เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าผมเสียนั้นเกิดขึ้นได้ยังไงและเกิดจากอะไร เริ่มด้วยการเข้าใจโครงสร้างของเส้นผม ที่เห็นเล็ก ๆ แบบนี้แต่ความจริงแล้วเส้นผมของเรามีด้วยกันถึง 3 ชั้นเลยทีเดียว โดยประกอบไปด้วย ผิวนอก (Cuticle) เนื้อผม (Cortex) และแกนผม (Medula)

เผย 10 เคล็ดลับบำรุงผมเสียให้กลายเป็นผมสวย_2

ซึ่งการที่ผมเสียนั้น เกิดจากบริเวณผิวนอกของเส้นผมถูกทำลาย ทำให้เนื้อผมเกิดการฉีกขาด เป็นอาการที่เรียกว่าผมแตกปลาย ผมพันกันง่ายและปลายผมมีสีที่ซีดลง ซึ่งสาเหตุเกิดได้มากมายหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของตัวเอง ที่อาจจะรุนแรงกับเส้นผมไปเสียหน่อยเวลาสระผม มัดผม ดึงผม หรือจะเป็นเพราะสารเคมีจากสีย้อมผม น้ำยายืดผม ไปจนถึงมลภาวะ ฝุ่นควันรอบตัวจากทุกที่ที่เราเดินทางไป ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดผมเสียได้ทั้งสิ้น

ทานอาหารที่มีประโยชน์

การที่ผมจะดูดีได้อย่างแท้จริง การดูแลจากภายในก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งสารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นผมนั้นได้แก่ ไบโอติน โปรตีน ธาตุเหล็ก ซิงค์ และวิตามินอื่น ๆ โดยสารอาหารดังกล่าว สามารถหากินได้ทั่วไปจากอาหารประเภท ไข่ เนื้อแดง ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และผลิตภัณฑ์จากนมวัวไขมันต่ำ เป็นต้น

เผย 10 เคล็ดลับบำรุงผมเสียให้กลายเป็นผมสวย_3

หวีผมถูกวิธีช่วยลดผมเสีย

ใครจะรู้ว่าการหวีผมที่ผิดวิธีอาจจะเป็นสาเหตุของผมร่วงได้ เราจึงควรปรับเปลี่ยนวิธีการหวีผม จากที่เคยหวีแรงผมแรง ๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นหวีเบา ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการผมร่วงที่เกิดจากการกระชากหวีที่แรงเกินไป จนมีเส้นผมขาดติดออกมา นอกจากนี้แล้วยังต้องหลีกเลี่ยงการหวีผมในขณะที่ผมเปียก เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่เส้นผมอ่อนแอที่สุด และขาดร่วงได้ง่ายที่สุดนั่นเอง

วิธีสระผมให้ผมสวย

สระผมน้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ควร จำนวนครั้งที่เหมาะสมกับการสระผมที่สุดจึงอยู่ที่ 2-3 วันครั้ง ตามแต่สภาพเส้นผมของแต่ละคน หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนในการสระ เพื่อไม่ให้ผมแห้งเสียเกินความจำเป็น และวิธีการสระผมที่ถูกต้องก็สำคัญไม่แพ้กัน การนวดคลึงเบา ๆ ก็เพียงพอแล้วสำหรับการทำความสะอาดหนังศีรษะ แถมยังช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : HOW TO สระผมแบบคนญี่ปุ่นสยบผมร่วง

เลี่ยงการใช้สารเคมี

การย้อมผม ยืดผม หรือการใช้สารเคมีใด ๆ กับเส้นผม ถือเป็นการทำร้ายผมด้วยกันทั้งนั้น เพราะสารเคมีที่เราใช้ จะเข้าไปทำลายโครงสร้างแคราตินในเส้นผม ทำให้เส้นผมเปราะบาง สูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ทำให้ผมเสีย แตกปลาย และขาดร่วงในที่สุด ดีไม่ดีหากเกิดการแพ้สารเคมีที่ใช้ขึ้นมา อาจจะทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมเป็นวงได้ ทีนี้ล่ะค่ะปัญหาใหญ่ของจริง

ลดการใช้ความร้อนกับเส้นผม

เช่นเดียวกับสารเคมี ความร้อนจากการหนีบผม ดัดผม ม้วนผม ก็จะทำลายโครงสร้างเคราตินของผมทำให้ผมเสียได้ แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้ความร้อนในการทำผมจริง ๆ ก็อย่าลืมที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนทุกครั้ง และพักผมบ้างในวันหยุด เพื่อไม่ให้ผมต้องรับภาระหนักเกินไปค่ะ

เผย 10 เคล็ดลับบำรุงผมเสียให้กลายเป็นผมสวย_4

ไม่นอนหลับตอนผมเปียก

ขณะที่ผมเปียกนั้น จะเป็นช่วงเวลาที่เส้นผมอ่อนแอที่สุด แถมยังเป็นผลเสียกับหนังศีรษะที่ต้องรับมือกับความอับ ความเปียกชื้นทั้งคืน ซึ่งเป็นต้นเหตุของเชื้อรา รังแค และอาจมีอาการอักเสบและคันร่วมได้อีกด้วย ทางที่ดีอย่าลืมเป่าผมให้แห้งก่อนเข้านอนทุกครั้ง แต่ถ้าง่วงไม่ไหวจริง ๆ เก็บผมไปสระตอนเช้าเอาจะดีกว่านะคะ

อ่านเพิ่มเติม : นอนตอนผมเปียกระวัง! เสี่ยงผมร่วง

ปกป้องผมเมื่อต้องว่ายน้ำ

คลอรีนในสระว่ายน้ำมีฤทธิ์กัดกร่อนที่ไม่ดีกับเส้นผมเอามาก ๆ ยิ่งถ้าหากเป็นสระว่ายน้ำที่อยู่กลางแจ้งแล้ว ความร้อนและรังสียูวีก็จะยิ่งทำปฏิกิริยากัน ทำให้เส้นผมยิ่งโดนทำร้ายเข้าไปใหญ่ จะสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่เราขึ้นจากการว่ายน้ำทีไร เส้นผมจึงดูเหนียวพันกันและหยาบกระด้างทุกที ดังนั้นเมื่อเราจำเป็นต้องลงน้ำบ่อย ๆ จึงต้องปกป้องเส้นผมด้วยการใส่หมวกว่ายน้ำทุกครั้ง ทาผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันอันตรายจากยูวีและคลอรีน และหลังจากที่ขึ้นจากน้ำแล้ว ให้รีบอาบน้ำสระผมให้เร็วที่สุดและบำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์ด้วยนะ

บำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์

หลังสระผมทุกครั้ง อย่าลืมบำรุงผมด้วยครีมนวดผม เพราะในช่วงที่เราสระผม เกล็ดผมจะเปิดออกทำให้ผมอ่อนแอกว่าที่เป็น การใช้ครีมนวดจึงเป็นการเข้าไปปิดเกล็ดผม ทำให้ผมไม่แห้งเสียชี้ฟู แล้วก็ควรให้อาหารผมสักหน่อยด้วยทรีทเม้นท์สูตรต่าง ๆ ที่ชอบเพื่อรักษาผมให้สวยสุขภาพดีอยู่เสมอค่ะ

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผม

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันได้ดีกับเส้นผมของเรา ก็จะช่วยทำให้เส้นผมของเราเปล่งประกายได้อย่างเต็มที่ และไม่ก่อให้เกิดภาระกับเส้นผมมากเกินไป การเลือกว่าผลิตภัณฑ์ใดเหมาะกับเรานั้น สามารถสังเกตได้ทั้งจากชื่อสูตรที่เขียนอยู่ข้างบรรจุภัณฑ์หรือจะดูจากเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ก็ได้ เช่น หากเราเป็นคนผมแห้ง ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีมดูเข้มข้น เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม หากเป็นคนผมมันก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรใส สูตรอ่อนโยน เพราะจะไม่ทำให้ผมดูมันมากขึ้นกว่าเดิม และถ้าหากเราเป็นมนุษย์ผมเสีย ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เข้มข้นพิเศษเพื่อเข้าไปช่วยซ่อมแซมปัญหาผมเสียของเราให้กลับมาดูดีมีน้ำหนักมากขึ้น

หมั่นเล็มปลายผมช่วยได้

หากปลายผมของเรานั้นแห้งแตกปลาย เราก็ไม่ควรเก็บไว้ การเล็มปลายผมประมาณ 1-2 ซม. ทุก ๆ 3-4 เดือน ก็จะทำให้ผมของเราดูสุขภาพดีขึ้นได้ เพราะเราได้ตัดเอาส่วนที่เสียออกไปแล้วนั่นเอง ลองไปทำกันดูนะคะ

https://www.hairsmithclinic.com/how-to-wash-hair-like-japanese-to-prevent-hair-loss

ผมเสียนั้นเกิดจากการที่ผิวนอกของเส้นผมถูกทำลายและเกิดการฉีกขาด ทำให้เกิดเป็นอาการที่เรียกว่าผมแตกปลาย ผมพันกันง่ายและปลายผมมีสีที่ซีดลง สาเหตุเกิดได้มากมายไม่ว่าจะเป็นจากพฤติกรรมของตัวเอง หรือจะเป็นเพราะสารเคมี มลภาวะและฝุ่นควันรอบตัว ซึ่งเราสามารถรักษาผมเสียได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ อย่างการกินอาหารที่มีประโยชน์ การหวีผม สระผมอย่างถูกวิธี  ลดการใช้ความร้อนและสารเคมีในการจัดแต่งทรงผม ไม่นอนหลับในขณะที่ผมเปียก บำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและหมั่นเล็มปลายผมทุก ๆ 3-4 เดือน เท่านี้ผมเสียที่เคยมีก็จะกลายเป็นผมสวยที่อยู่กับเรายาว ๆ แล้วค่ะ

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

คุณหมอพรีมาเข้าร่วมงานประชุม World Congress ครั้งที่ 25
ข่าวสาร
Prima Tossaborvorn

คุณหมอพรีมาเข้าร่วมงานประชุม World Congress ครั้งที่ 25 จัดขึ้นที่กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ค

หมอพรีมาได้มีโอกาสเข้าร่วมงานประชุม World Congress ครั้งที่ 25 จัดขึ้นที่กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ค ซึ่งเป็นงานประชุมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเกี่ยวกับศัลยกรรมปลูกผม ที่นี่นับว่าเป็นศูนย์รวมของผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยจากทั่วโลกที่มาเสนอผลงานวิจัยใหม่ล่าสุดและแบ่งปันความรู้ทางวิชาการในวงการนี้

ปลูกผม DHI
บทความ
Prima Tossaborvorn

ความเข้าใจผิดระหว่างวิธีปลูกผม DHI กับ FUE

หมอได้ยินคำถามจากคนไข้ต่างชาติว่าวิธีปลูกผมด้วยเทคนิค DHI ดีกว่า วิธีปลูกผม FUE ยังไง คำถามนี้แอบทำให้หมอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากด้วยกลยุทธ์โฆษณาในปัจจุบัน บ่อยครั้งมันทำให้คนไข้เริ่มเข้าใจผิด หมออยากเขียนอธิบายเกี่ยวกับวิธีปลูกผม DHI และวิธีปลูกผม FUE ดังนี้ค่ะ

ช่องเสือร้องไห้ YOUTUBER ชื่อดัง เลือกเข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ HAIRSMITH CLINIC_1
บทความ
Prima Tossaborvorn

ช่องเสือร้องไห้ ยูทูปเบอร์ชื่อดัง เลือกเข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ Hairsmith Clinic

เมื่อช่องเสือร้องไห้ มีผู้ติดตามบนยูทูปกว่า 3 ล้านคน เข้ามาปรึกษาสุขภาพเส้นผมที่ Hairsmith Clinic พบกับความสนุกสนานพร้อมสอดแทรกสาระความรู้การปลูกผม และสาระน่ารู้เกี่ยวกับเส้นผม

ปลูกผมแบบ NON-SHAVEN FUE กับ FUE ต่างกันอย่างไร_1
บทความ
Prima Tossaborvorn

ปลูกผมแบบ NON-SHAVEN FUE กับ FUE ต่างกันอย่างไร

เข้าใจลึกซึ้งในการเปรียบเทียบระหว่างการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE และ FUE ทั่วไป ทำความเข้าใจในข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี, รวมถึงการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด หาคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกระหว่างวิธีการปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE หรือ FUE ทั่วไป ทำให้การตัดสินใจของคุณเป็นไปอย่างมีข้อมูลและมั่นใจ.